ความเป็นมา

มีตำนานมาหลายเรื่อง ที่เล่าถึงความเป็นมา ของคำว่า สปา เพราะหลายตำราก็ไม่กล้ารับรอง ที่รู้จักกันดี น่ามาจากคำย่อของภาษาลาติน หรืออักษรตัวแรกของ Saitas Per Aqua แปลว่าการเสริมสุขภาพด้วยน้ำ

ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์มีมานานกว่า 5,000 ปี ตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ กรีก บาบิโลน อินเดีย จีน ยุโรป อเมริกา และแทบทุกประเทศทั่วโลก แอนโตนิโอ มุสซา ชาวโรมัน ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาของไฮโดรเธอราพี เพราะสามารถใช้น้ำเย็นรักษาโรคตับ ของจักรพรรดิ์ ออกุสตัส จนหายได้ ทำให้เรียกการอาบน้ำ และแช่น้ำเย็นว่า โรมัน บาธ (Roman bath) หรือการอาบน้ำแบบโรมัน

ที่ประเทศเบลเยี่ยม มีเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งชื่อว่า สปา (Spa) ที่นั่นมีบ่อน้ำแร่ซึ่งมีผู้ป่วยด้วยโรคต่างๆ เป็นจำนวนมากไปแช่น้ำรักษาตัวมาตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจ จึงมักเรียกอ่างน้ำหรือบ่อสำหรับนั่งหรือนอนแช่น้ำกันทั่วไปว่า สปา (Spa) ชาวตุรกี ก็ใช้วิธีการอาบน้ำอุ่น ตามด้วยการนวด แล้วปิดท้ายด้วยการอาบน้ำ และแช่น้ำเย็นอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นแบบฉบับของ เตอร์กิชบาธ (Turkish bath) หรือการอาบน้ำแบบตุรกีที่มีชื่อเสียง จนกลายมาเป็นสถานอาบอบนวดแผนปัจจุบัน

เป็นที่ยอมรับกันมานานแล้วว่าการอาบน้ำ และแช่น้ำ นอกจากจะเป็นการชำระร่างกายให้สะอาดแล้ว น้ำยังช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด ช่วยหย่อนกล้ามเนื้อที่ตึงตัว เมื่อยล้า และช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดที่ผิวหนัง ศาสตร์ของการรักษาโรคด้วยน้ำที่เรียกกว่า โฮโดรเธอราพี (Hydrotherapy) (ไฮโดร แปลว่า น้ำ เธอราพี แปลว่า บำบัด) หรือที่มีการใช้เป็นภาษาไทยว่า วารีบำบัด

แม้ว่ายังเป็นที่ถกเถียงเรื่องที่มาของคำ แต่ทั่วโลก ก็รู้จักและยอมรับในประโยชน์และความสุขที่สปา มอบให้แก่พวกเขาและเป็นที่นิยมกันทั่วโลก แม้แต่ประเทศไทย ธุรกิจให้บริการสปา เกิดขึ้นมากมาย และไทยสปา ก็เป็นที่นิยมและเผยแพร่ไปทั่วโลก

[ไตรรงค์.เน็ต ] [สปา]