ขับสารพิษจากใจกาย
ในยุคที่สังคมอุตสาหกรรมและความเร่งรีบในปัจจุบัน เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องผจญกับมลภาวะต่างๆ ทั้งจากน้ำ อากาศ อาหารความร้อน และแม้กระทั่งมลภาวะทางอารมณ์ ความเครียด จากการทำงาน แม้คุณจะเลี่ยงไม่ได้นัก สปาก็เป็นทางเลือกที่จะช่วยคุณดูแลได้ทั้งร่างกายและจิตใจได้อีกทางหนึ่ง
ลองหาเวลาว่างๆ สัก 1 วัน ในแต่ละสัปดาห์ อาจจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือหลังกลับจากงานสัก 30-50 นาที ก็ช่วยดูแลอารมณ์ ลดความเครียดได้ดีทันตา
1. สงบจิตสงบใจลง
ถ้าคุณเป็นคนเครียดง่าย คุณก็คือคนที่มีมลภาวะทางอารมณ์สูงคนหนึ่ง ควรขจัดมันออกด้วยวิธีการผ่อนคลายง่ายๆ ตามลำดับดังนี้
ถ้าเริ่มรู้สึก ว่าเริ่มมีความเครียด ให้ออกไปหาอากาศบริสุทธิ์ข้างนอก หรือเดินออกไปจากที่เดิมๆ ที่เคยอยู่สักพัก หายใจเข้าปอดลึกๆ พร้อมยกแขนขึ้นสูงๆ จากนั้นก็ถอนลมหายใจออกพร้อมลดแขนลงมา ทำซ้ำอย่างนี้สัก 5-10 ครั้ง
หายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วค่อยหายใจออก ในขณะที่หายใจเข้า นับ 1 - 10 ไปด้วย เวลาหายใจออกให้คิดว่าปัญหาทุกอย่างขณะนั้น จะออกไปพร้อมกับลมหายใจที่ออกไปนั้น จากนั้นถอนลมหายใจออกแรงๆ (เฮ่อ...) ให้สะใจ เพื่อขจัดสิ่งที่รบกวนใจจิตใจออกไปให้หมด
หายใจอย่างไรก็ได้ แล้วแต่ใจคุณอยาก และทำอย่างนี้ กับแข้งขาของคุณ คุณจะเหยียด งอ อย่างไรก็ตาม ที่รู้สึกว่าจะทำให้คุณสบายที่สุดในขณะเดียวกัน ก็ทำจิตใจให้สบายๆ นึกถึงอะไรที่ทำให้คุณ รู้สึกเป็นอิสระ และสบายใจ เมื่อคุณรู้สึกสบายขึ้นแล้ว นำความรู้สึกดีๆเหล่านั้นเข้ามาในจิตสำนึกของคุณเอง แค่นี้ก็เรียบร้อยสำหรับการเอาชนะความเครียดให้อยู่หมัด
2. การทำสมาธิ
การทำสมาธิในรูปแบบของสปา มีเป้าหมายให้ผ่อนคลาย ลดความเครียด ทุกคนทำได้ เนื่องจากจะไม่ต้องไปยึดติดกับสิ่งใดๆ ช่วยทำให้คุณมีสติ มีสมาธิที่ยาวนานมั่นคงขึ้น ช่วยคุณเผชิญในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการทำงาน การทำสมาธิแบ่งเป็น 3 แบบ ให้ลองทำดู
นั่งสมาธิ ถือเป็นวิธีคลายความเครียดได้ทั้งร่างกายและจิตใจที่ดีอีกทางหนึ่ง ทำให้ร่างกายจิตใจสงบลง เพียงแต่คุณหาสถานที่ที่ทำให้คุณรู้สึกสบายใจ ควรเป็นสถานที่ๆ ปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มืดเกินไป ไม่สว่างเกินไป แสงจากธรรมชาติถือว่าดีที่สุด หาเบาะรองนั่งสบายๆ สักอัน ใส่ชุดที่สบายๆ ไม่รัดเกินไป ไม่รุ่มร่ามเกินไป นั่งขัดสมาธิบนเบาะ มือวางบนตัก ปิดเปลือกตาลงช้าๆ ไปพร้อมๆ กับเรื่องที่คุณเคร่งเครียดอยู่ หายใจเข้าออกช้าๆ เลิกคิดถึงสิ่งใดๆ นอกจากรับรู้การหายใจเข้าออก ว่ากำลังหายใจเข้า หรือกำลังหายใจออก หากจิตใจแว๊บๆ ไปนึกถึงเรื่องอื่น ก็รีบกลับมาที่การหายใจอย่างเดิม โดยไม่ต้องเสียอารมณ์หากเผลอคิดไปแล้ว ช่วงแรกๆ อาจลองทำสักสัก 10-15 นาที ก่อน เมื่อมีความชำนาญ ก็สามารถเพิ่มเวลาให้นานออกไปตามที่ต้องการ การทำสมาธินี้ สามารถใช้การจอจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ตามที่คุณถนัดได้ เช่นจดจ่อกับลมหายใจพร้อมภาวนาตาม พุทโธ, สัมมาอรหัง, เข้า ออก, ยุบหนอ พองหนอ หรือตามที่ท่านเคารพนับถือในศาสนาก็ได้ทั้งนั้น
เดินจงกลม คงเคยเห็นในภาพยนตร์การ์ตูน หรือภาพยนตร์หลายเรื่องที่เมื่อเวลาเคร่งเครียด คิดไม่ออก จะเดินกลับไปกลับมา ปิ๊ง! แล้วก็คิดออก นั่นแหละ ตัวอย่างการเดินจงกลมที่หลายคนนิยมใช้ลดความเครียด ได้ความคิดใหม่ๆ การเดินจงกลมก็คือการเดินอย่างมีสติ เดินกลับไปกลับมาช้าๆ สัก 10 ก้าวไป 10 ก้าวกลับก็พอ ยิ่งเดินช้า ยิ่งทำสติได้ง่ายและเร็ว (อย่างน้อยก้าวละ 5-10 วินาที) แทนที่จะนึกถึงลมหายใจแบบนั่งสมาธิ ก็นึกถึงเท้าที่กำลังยก เคลื่อนที่ไปข้างหน้า วางเท้าลงกับพื้น แล้วสลับเท้าอีกข้าง วิธีนี้เหมาะสำหรับท่านที่ฝึกใหม่ๆ เพราะให้สติอย่างรวดเร็ว ง่ายกว่า นานกว่า ผ่อนคลายจิตใจได้ดีกว่า เนื่องจากมีการเคลื่อนไหว เราจึงไม่ค่อยจะวอกแวก และยังเป็นการออกกำลังกายได้ดี ช่วยการทรงตัว แรกๆ ลองทำสัก 5-10 นาที ก็จะพบว่า ผ่อนคลายได้มาก สำหรับท่านที่ทำต่อเนื่องหลายวันแล้ว ค่อยๆ เพิ่มเวลาจนได้ครั้งละ 20-25 นาที ควรต่อด้วยการนั่งสมาธิ สัก 10-15 นาที เพื่อทำให้สมาธิในการทำงาน ดีขึ้น ผ่อนคลายขึ้น รวมการเดินจงกลม ต่อด้วยนั่งสมาธิ ใช้เวลาไม่เกิน 30-40 นาที ไม่ควรมากกว่านี้ เพราะอาจทำให้หมกมุ่นหรือเครียดแทน เว้นแต่ท่านที่จะต้องการทำเพื่อฝึกฝนสติสมาธิ ควรมีอาจารย์สอน หรือทำเป็นกลุ่มในวัดจกกว่าจะชำนาญ การทำสมาธิและสติ นิยมทำในการชำระจิตใจของหลายศาสนา ซึ่งอาจมีปลีกย่อยแตกต่างกันไป และวิธีนี้ สามารถทำได้ทุกศาสนา
ทำสมาธิพร้อมกิจกรรมต่างๆ แม้ว่าจะไม่เหมือนการนั่งสมาธิ ถ้าสามารถมีสติ ก็สามารถอยู่กับสิ่งที่กำลังทำได้ ไม่วอกแวกไปเรื่องอื่นๆ ก็นับว่าคุณได้ทำสมาธิได้แล้ว เช่าตอนที่กำลังรดน้ำต้นไม้ ก็ให้นึกตามการรดน้ำต้นไม้อย่างเดียว มองดูสายน้ำที่ไหลไปจากท่อ ดังนั้นการทำสมาธิ ก็สามารถใช้ได้กับกิจกรรมต่างๆ ทั้งเวลาพักผ่อน การทำงาน การอยู่บ้าน ก็ทำได้ทุกที่ทุกเวลา และผ่อนคลายได้อย่างง่ายดาย
3. การออกกำลังกาย
การออกกำลังกาย นอกจากเป็นการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายและจิตใจแล้ว ยังเป็นการขจัดไขมันส่วนเกินที่ได้ผลอีกด้วย คุณควรเลือกออกกำลังกายในแบบที่คุณถนัด หรือชอบ หรือสนใจ เช่น การเต้นแอโรบิค ว่ายน้ำ เต้นรำ จ๊อกกิ้ง ฯลฯ การออกกำลังกายที่ดี ไม่ควรหักโหม มากเกินไป การออกำลังกาย 30-60 นาทีต้อครั้งก็เพียงพอ (30 นาทีแรก ทำให้ร่างกายคุณมีการไหลเวียนที่ดี กำจัดของเสียได้มากขึ้น ผิวพรรณเปล่งปลั่งขึ้น 30 นาทีหลัง ช่วยเผาผลาญไขมัน ช่วยคุณกำจัดไขมันส่วนเกินได้ดี และทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง) และคุณควรจัดเวลาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3-4 ครั้ง/สัปดาห์ จึงจะได้ผลดีต่อสุขภาพ
แพทย์ศัลยกรรมใบหน้าชั้นนำของนิวยอร์ค และนำให้ออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ ดีกว่าการวิ่ง เพราะการวิ่งเป็นการสั่นสะเทือนแบบขึ้นๆ ลงๆ โดยตรง ส่วนการว่ายน้ำสามารถโอบอุ้มให้ความละมุนละไมแก่คุณได้ดีกว่า และคุณควรระวังการแสดงอารมณ์มากเกินไปทางสีหน้า อาจทำให้เกิดริ้วรอยง่ายขึ้น
4.โยคะ
โยคะ เป็นการออกกำลังกายแบบโบราณของอินเดีย และเป็นส่วนหนึ่งของปรัชญาฮินดู โยคะ หมายถึง การผสานระหว่างหารหายใจด้วนลมปราณบวกกับท่าดัดร่างกายต่างๆ มาจากภาษาสันสกฤต แปลว่า การรวมเป็นหนึ่งเดียวด้วยการผ่อนคลายกล้ามเนื้อทำให้จิตใจสงบ ควบคุมอารมณ์และลักษณะนิสัยไม่ดีต่างๆ
โยคะ เน้น 3 ลักษณะ คือ
การหายใจอย่างถูกต้อง เพื่อควบคุมการทำงานของร่างกาย ในคนส่วนใหญ่นั้น มักหายใจไม่ถูกต้องเนื่องจากมีความเครียด ความกังวล ความโกรธแค้น ก็เป็นสามเหตุให้เราหายใจอย่างสั้นๆ โดยทั่วไปแล้ว จะรู้สึกเฉพาะส่วนบนของหน้าอกเท่านั้น และเมื่อเวลาที่เมื่อยล้า เราก็จะหายใจเฉพาะช่วงหลัง บริเวณกระบังลมเท่านั้น การหายใจอย่างถูกต้องคือการหายใจอย่างเต็มปอด ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า และระบบการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น
ท่วงท่าการออกกำลังกาย ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การคลายเครียด
สมาธิ เป็นการผ่อนคลายอย่างล้ำลึกทางด้านของจิตใจ
ถ้าคุณฝึกโยคุบ่อยๆ จะทำให้ร่างกายของคุณมีความยืดหยุ่น มีพลัง มีสมาธิ รู้สึกผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ ทำให้นอนหลับดี ช่วยรักษาโรคหัวใจ ความดันสูง ปวดหลัง โรคในระบบทางเดินหายใจ การขับถ่าย เพราะโยคะเป็นการออกกำลังกายที่เหนือชั้นกว่าการออกกำลังกายแบบธรรมดา แทนที่จะรู้สึกเหน็ดเหนื่อย จะได้รับความสดใสแทน
โยคะ เป็นการออกกำลังกายอย่างมีขั้นตอน จำเป็นต้องมีผู้รู้แนะนำ แต่ปัจจุบัน มีวิดิโอ และหนังสือมากมายแนะนำ ลองทำท่าง่ายๆ จากคำแนะนำก่อนได้
5. Tai-Chi (ไท-ชิ : ภาษาจีนกลาง, ไทเก็ก : ภาษาจีนแต้จิ๋ว)
ไทชิ เป็นการออกำลังกายกลางแจ้ง แบบจีนโบราณ เป็นการออกกำลังกายด้วยท่าศิลปะการป้องกันตัวแบบจีนโบราณ ด้วยการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ มีด้วยกัน 108 ท่า ใช้เวลาออกกำลังกาย 20-60 นาที ศิลปะการป้องกันตัวที่เชื่องช้าเช่นไทชินี้ ก่อให้เกิดความกลมกลืนและความสมดุลของพลังงานในตัวคุณทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น ระบบน้ำเหลือง ทำงานได้ปกติดี ในขณะเดียวกันก็เหมือนการทำสมาธิด้วยการกำหนดลมหายใจไปพร้อมๆ กันกับการออกกำลังกาย ขณะที่ร่างกายได้พัฒนาท่วงท่า ไขข้อ การหมุนเวียนของของเหลวในร่างกายดีขึ้น ทางด้านจิตใจ ก็ได้ความสงบจากสมาธิด้วย
6. อาหาร
การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ และถูกสุขลักษณะนั้น นอกจากจะทำให้ร่างกายเจริญเติบโตแล้ว ยังช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกายอีกด้วย ดังตัวอย่างอาหารต่อไปนี้
ผักสด ในผักมีวิตามินและแร่ธาตุ และใยพืช (Fiber) สูง .ใยพืชนี้ช่วยการขับถ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังดึงเอาของเสียต่างๆ ออกไปด้วย
หัวบีทรุทสีแดง มีคุณสมบัติขจัดสารพิษออกจากตับ
หน่อไม้ฝรั่งดิบ ช่วยทำความสะอาดไต และกระเพาะปัสสาวะได้ (ลองใช้วิธี สกัดน้ำผักจากเครื่องสกัดน้ำผักผลไม้ดู)
แอปเปิ้ล และเซเลอรี่ ช่วยขจัดคาร์บอนไดออกไซด์ส่วนเกินออกไป
โยเกิร์ต ช่วยย่อยอาหาร และขจัดสารพิษออกจากร่างกาย
ผลไม้ที่มีสีสัน และผักที่มีกลิ่นแรง มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (ป้องกันความเสื่อม ความชรา และโรคมะเร็ง) และมีใยพืชธรรมชาติ ช่วยปรับความอยากอาหาร และปรับระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี
น้ำสับปะรด มีส่วนประกอบของ โปรมาลิน และเอ็นไซม์ที่ช่วยโปรตีนให้ย่อยได้เร็วขึ้น
มะละกอ และ อะโวกาโด้ ช่วยทำความสะอาดขจัดสารพิษ และซ่อมแซมส่วนสึกหรอของร่างกาย ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า
องุ่น ช่วยทำความสะอาด ตับและไต
ไม่ควรรับประทาน เกลือมากเกินไป ทำให้ไตทำงานมากขึ้น
ไม่ควรใช้น้ำตาลทรายขาว มีสารฟอกขาวที่ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ลองใช้น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลอ้อย ใช้สารให้ความหวาน พวกที่ทำจากแอสปาแตม จะดีกว่า
[ไตรรงค์.เน็ต ] [สปา]