"อยากไปเที่ยวเกาะเกร็ด" น้องผมมาจากเชียงราย บอกแค่นี้ตอนเย็นๆ วันเสาร์ ก็เลยบอกว่า เอาสิ เดี๋ยวพาไป เจอกันตอน 10 โมง วันอาทิตย์จะได้ตื่นสายๆ ซักผ้า รดน้ำต้นไม้ หาข้าวปลากินก่อน

 ผมเคยไปไหว้พระเก้าวัด ได้ไปเดินบนเกาะ แต่พอจะพาใครไป ก็ไปไม่ถูก เลยค้นดูในเน็ตพอได้ข้อมูล นัดน้องและหลาน เอารถมาจอดที่เมืองทองธานี้ ที่จอดรถข้างคอนโดผม แล้วผมก็ขับรถของผมพาน้องและหลานเที่ยว ขับรถมาเข้าถนนแจ้งวัฒนะ ผ่านห้าแยกปากเกร็ดตรงเข้ามาจนถึงซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด4 สังเกตมีโลตัสมินิอยู่ปากซอย เลี้ยวซ้ายไปจนถึงวัดสนามเหนือ ดูตามรูปเลยครับ

จอดรถที่วัดเหนือได้ วันธรรมดาจอดฟรี (ดูตามป้ายว่าวัดไม่มีนโยบายเก็บค่าที่จอดรถวันธรรมดา) เสาร์อาทิตย์จอดได้ 30 บาท แต่ตอนผมไปประมาณเกือบ 11 น.รถเต็มแล้ว เลยไปจอดฟากตรงข้าม มีที่ฝากรถ ราคา 40 บาท กว้างขวางดีกว่าในวัด สำหรับใครที่กลัวร้อนกลัวผิวดำคล้ำเสีย ก็แวะซื้อหมวกได้ครับ ตอนแรกไม่คิดใส่ 19 บาท ก็โอเค ราคาถูกใจอีก หมวกสานใบหญ้า มีหลายแบบให้เลือก ได้มาคนละใบ เดินเข้าวัดมา ก็หาซื้อหมวกได้ครับ แต่แพงขึ้นบาทหนึ่ง 20 บาท (ให้ไปเถอะ) ท่าน้ำอยู่หลังวัด ค่าข้ามฟาก เพียง 2 บาท/คน จ่ายที่ทางขึ้นฟากวัดปรมัย เป็นราคาค่าเดินทางที่ถูกใจมาก


ท่าน้ำวัดเหนือ เราข้ามฟากตรงนี้

เรือที่เราข้าม จุคนได้ราว 30 คน ครับ สะดวกดี


เราสามารถ ยืนชมทิวทัศน์ได้ ใช้เวลาข้ามสักไม่ถึง 5 นาทีเท่านั้น เร็วดีมาก

คุยกันในเรือว่า เห็นในอินเตอร์เน็ตที่ค้นเมื่อวาน ว่ามีบริการเช่าจักรยาน ปั่นได้รอบเกาะ สนใจไหม 30 บาท/คัน เป็นบริการที่ ราคาถูกใจมากอีกแล้ว เช่าได้ทั้งวันนกว่าจะคืน พอขึ้นฝั่งได้ เราได้ยิน บริการเรือทัวร์รอบเกาะ ประมาณ 1 ชั่วโมง พร้อมแวะไหว้พระ และแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นโรงงานเครื่องปั้นดินเผา 50-60 บาท นี่แหละ เขวไปเหมือนกัน แต่เพื่อความประหยัด เอ๊ะ! ไม่ใช่ เพื่อให้ได้วิวมากว่า เพราะเรามีเวลาเยอะ เช่าคนละคัน เป็นจักรยานแม่บ้านธรรมดา ซื้อน้ำแร่แช่เย็นอีกขวดละสิบบาท ทัวร์ครั้งนี้ใช้เงินแค่ 40 บาทรวมน้ำเย็นๆ ครับ

เราไปไหว้พระเจดีย์กลางน้ำกันก่อนนะครับ ถ้ามองจากแม่น้ำ เป็นอย่างนี้

วัดนี้ชื่อวัดปรมัยยิกาวาส สิงที่โดดเด่นก็คือ พระเจดีย์กลางน้ำสีขาว ซึ่งเอียงเพราะถูกน้ำกัดเซาะ คงคล้ายหอเอนเมืองปิซา ตอนนี้ได้รักษาฐานรากไว้แล้วอย่างแข็งแรง คงไม่เอียงกว่านี้แล้ว คุณน้องกับคุณหลาน ถ่ายเป็นที่ระลึกหน่อยครับ

คราวนี้ ไม่ตั้งใจถ่ายรูป ต้องขออภัยที่ไม่มีภาพถ่ายของขายจิปาถะมากมาย เยอะมาก ทำให้การขี่จักรยานลำบาก จนคิดว่า เราตัดสินใจผิดไปหรือเปล่า แต่ก็ได้ซื้อของกิน ของใช้ ไรบ้าง อิอิ มันน่ารัก ส่วนใหญ่เป็นของออกจะโบราณหน่อย ถ้าใครชอบชอปสบายๆ แนะนำว่าไม่ต้องเช่าจักรยาน เดินชมตลาดก็สนุกดีน่ารัก และเยอะมากๆๆๆ

เติมพลังก่อน เราจอดจักรยานไว้ร้านก๋วยเตี๋ยว ที่มีที่นั่งริมน้ำเพื่อชมบรรยากาศริมน้ำกันครับ ราคา เริ่มต้นที่จานละ 60 บาท ผมว่ากว่าแพงกว่าร้านทั่วไปหน่อย แต่ก็อร่อยและอิ่มดี เยอะ รับได้ บรรยากาศดีสดชื่น ใกล้เที่ยงร้อนๆ เลยอยากดื่มเย็นๆ เราก็เลือกโค้กกับน้ำแข็ง เก็บน้ำตาลไว้หน่อยจะได้ไม่เหนื่อย สมเหตุสมผลไหมครับท่านผู้อ่าน


บรรยากาศริมน้ำเจ้าพระยา ที่สายน้ำไหลย้อนกลับจากทะเลหนุนยามแล้ง


วัดวาหลายวัดเรียงรายริมฝั่งเจ้าพระยา มีสถาปัตยกรรมสวยๆ ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม


แวะไหว้พระตามรายทางที่เราปั่นจักรยาน นี่คือจักรยานที่เราเช่า 30 บาท สามารถใช้ได้ทั้งวัน และหมวกสานราคา 19 บาท ก็สวยและใช้บังแดดได้ดี


ทางปั่นจักรยาน ที่สะดวกสบาย ปลอดภัยเพราะไม่มีรถยนต์เลย กลางวันก็ปั่นได้ อากาศดี ลมเย็น มีต้นไม้ใบบังเป็นระยะๆ ถ้าใครกลัวแดดก็ใส่เสื้อแขนยาวบางๆ มาก็จะไม่ร้อนเท่าไหร่ ขอบสูงๆ ต้องคอบระวังมากหน่อย เพราะเรามักมองข้างๆ ถ้าหล่นไปก็อาจบาดเจ็บได้ ระมัดระวังมอเตอร์ไซค์ท้องถิ่นที่มีทั้งมอเตอร์ไซค์รับจ้างและของชาวบ้านที่จะขับค่อนข้างเร็ว เขาชินทาง เราไม่ชินทาง เราต้องระวังให้มากอย่าตกใจจนหล่นข้างทาง

สามารถวางสัมภาระ หรือกระเป๋าเล็กๆ ขวดน้ำ ไว้หน้ารถ สะดวกดี ชมธรรมชาติข้างๆ ไปด้วย ได้ออกกำลังกายด้วย


มีหลายสถานที่ ให้แวะพัก แวะชม เช่นสวนดอกไม้ในหมู่บ้านมอญจำลอง ก็น่าเดินเล่น ร้อนหน่อยเพราะเรามาตอนกลางวัน แต่ลมเย็นดี ชมสวนดอกไม้ เพื่อสลับกับการปั่นจักรยาน นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารให้พักซื้อหาอาหารหรือน้ำดื่ม หรือศูนย์ศิลปกรรมต่างๆ เช่นการปั้นหม้อสลักลายเอกลักษณ์ของเกาะเกร็ด และเลือกซื้อของที่ระลึกมากมายระหว่างทาง


แวะไหว้พระ ชมสถาปัตยกรรมของรูปแบบภาคกลางได้หลายวัด


รวมทั้งพระเจดีย์ พระธาตุ ที่เป็นที่เคารพบูชาของชาวเกาะเกร็ด


ชมทัศนียภาพริมน้ำ ที่จะมีให้ชื่นชมเป็นระยะ ภาพนี้จะเห็นผักตบชวาที่เริ่มเฉา เริ่มแยกกอกระจาย เนื่องจากน้ำทะเลหนุน มันไม่ชอบน้ำเค็มและเริ่มเน่าตายไป โดยไม่ต้องกำจัด

เรากลับมาที่เดิม ใช้เวลารอบเกาะไปราว สองชั่วโมงกว่า รวมแวะไหว้พระ แวะทานอาหาร อาหารว่าง ชอปปิ้ง ต่อจากนี้ เราไปต่อกันที่เมืองทองธานี ชอปและชมสินค้าในร้านโซนราคาโรงงาน หรือ Factory Outlet ของแบรนด์แนมที่ลดราคาทุกวัน 20-80% อีกทางเลือกของคนชอบแบรนด์แนม และห้องแอร์เย็นๆ กับร้านที่ราคาถูก ตกแต่งง่าย บรรยากาศแตกต่างกับห้างต่างๆ เราจบทริปนี้ด้วยการเลยไปร้านนวดเท้าคนละชั่วโมง ก่อนกลับบ้าน ทริปนี้สบายๆ และไม่ได้เน้นถ่ายรูปนัก จึงมีรูปไม่มาก ไม่ครบทุกจุด ลองไปเที่ยวกันนะครับ


: เที่ยวไทย : ไตรรงค์.เน็ต :