กุ้ลิ สวรรค์บนดิน เมืองในภาพวาด
ตอนที่ 10 สะพานดอกไม้

เรากลับเข้าเมือง(1-3) มารับประทานอาหารค่อนข้างตรงเวลา คือเริ่มรับประทานอาหารตอนเที่ยงวัน (4-6) อย่างมีความสุข เพราะหลายคนได้ผ้าห่มใยผ้าไหมสมปรารถนาแล้ว กำลังหิวพอดี อาหารมื้อนี้เริ่มรสชาติจัดจ้านขึ้น พี่จิ๋ว(4) บอกว่าน่าจะเป็นอาหารฮกเกี้ยน (จำไม่ผิดใช่ไหม) ซึ่งชอบอาหารเผ็ดเค็ม และการปรุงอาหารที่พิถีพิถันขึ้น บางทีอาจเพราะเราเริ่มคุ้นเคย เริ่มพึ่งพาน้ำพริกสวรรค์ของไกด์น้อยลง

(1) (2) (3) (4) (5) (6)

เราทัศนศึกษาสวนเจ็ดดาวกันต่อหลังอิ่มท้อง กองทัพเดินด้วยท้อง ตอนนี้เราเดินกันต่อกันเลยครับ มาสวนเจ็ดดาวกันต่อ สวนเจ็ดดาวหรือ "ชีซิงกงหยวน 七星公园" ตั้งอยู่ในเมืองกุ้ยหลินห่างจากใจกลางเมือง เพียง 1.5 กิโลเมตร บนริมฝั่งแม่น้ำหลีเจียงทางตะวันออก มีพื้นที่ 137.4 เฮคเตอร์ เนื่องจากอยู่ติดกับเขาเจ็ดดาว 七星山 จึงเป็นที่มาของชื่อสวนแห่งนี้ เป็นสวนสาธารณะที่เก็บเงิน เราจ่ายในทัวร์แล้ว ก็เข้าแถวนับคน แล้วมารอกันหน้าสวนด้านใน มีดอกไม้กลางวงเวียนให้เราได้เป็นโฟร์กราวน์ถ่ายรูปกัน(8-10) หานางแบบแป๊บหนึ่ง พี่ใหญ่กับพี่กิ่งเข้ามาพอดี เธอโพสท่าทันทีโดยไม่ต้องบอก (11) แล้วก็ขอแถม แบบว่าชอบเบิ้ล เลยได้รูป (12) มาอีก ดีกว่ารูปแรกหน่อย จากนั้นเห็นใครก็เรียก และผลัดกันถ่าย(13-17)  ผมมีกล้องสองตัว และพี่อุทัยก็ถ่ายให้ด้วย(18-20) บนสะพานดอกไม้ (สะพานบุปผา) 花桥 อยู่ทางทิศตะวันตกของสวน เป็นสะพานเล็ก ๆ ข้ามบริเวณที่เป็น จุดบรรจบของลำธารเสี่ยวตงเจียง 小东江กับลำธาร หลิงเจี้ยนชี 灵剑溪 สะพานนี้ เดิมเรียกว่า สะพานเจียซี 嘉熙桥、สะพานเทียนจู้(เสาสวรรค์)天柱桥 เป็นสะพานหินโค้ง เริ่มสร้างในสมัยราชวงศ์ซ่ง 宋朝 และทำการบูรณะใหญ่สองครั้งในราชวงศ์หมิง ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน บริเวณสะพานจะมีดอกไม้ขึ้นมากมาย ตอนหลังจะเรียกตามที่เห็น คือ สะพานบุปผา หรือที่คุณหมาบอกว่าสะพานดอกไม้ แน๊ะ! งงๆ มีภาษาจีนมาจากไหน รับรองว่าเขียนถูกเพราะผมก๊อปมาจากโรงเรียนสอนภาษาจีนในอินเทอร์เน็ต อิอิ ไม่ได้เขียนเอง เหอๆๆ เขินจัง เดี๋ยวจะแอบก๊อปมาอีก อิอิ มาครับ ข้ามสะพานไปฟากโน้นดีกว่า

(8) (9) (10) (11) (12) (13) (14) (15) (16) (17)(18) (19) (20) 

มีเก๋งจีนประดับอยู่ริมผา (21) มองไปไกลๆ เป็นสะพานข้ามน้ำ (22) เลยเชิญพี่อุทัยมาเป็นนายแบบหน่อย (23) ฟากซ้ายมือก็มี เก๋งจีนอยู่ยอดเขา (24-25) โหว, กว่าจะไปร่ำสุราชมวิวข้างบนนี่ต้องแข็งแรงน่าดู แต่ก็ขออภัยไว้ก่อน ไม่ทราบจริงๆ ว่าเป็นศาสนสถานหรือที่พักผ่อน ดูไม่ออก ปลายสะพานเป็นหินสลักชื่อสะพาน เทียนจู้ ซึ่งเป็นชื่อเดิม (26-27) คุณหมาบอกว่าสะพานนี้อายุกว่าพันปีแล้ว (ก่อนสุโขทัยราว 500 ปี) บูรณะหลายครั้ง สองข้างลำน้ำยังคงสวยงามด้วยธรรมชาติอยู่ (28-30) เราเดินไปถ่ายรูปกันเลยครับ ทางลงเป็นบันไดหินก่อด้วยซีเมนต์ มีสะพานไม้ข้าม 31-36) พี่จิ๋วได้คิวถ่ายเป็นคนแรก (37) แล้วเรากรูกันเข้ากล้อง (38-39) ทันไดนั้น เจ้าถิ่นก็มาจัดแถว ล้งเล้งๆ เราก็ฟังไม่รู้เรื่อง ผมบอกว่า โนๆ แล้วรีบถ่ายมาได้แค่นี้ แล้วเรียกพวกเราออกมาถ่ายอีกมุม (40) ก็ที่ของเขา ต้องเข้าใจ แต่ถ้าเราไม่ใช้บริการเขาก็เพียงทำท่าโมโห ถ้าเราให้เขาจัดแถวถ่ายรูปก็คิดเงินแพงๆ ทันที  ผมถ่ายรูปได้อีก 4 มุมใกล้ๆ กัน (41-44) ไปต่อกันดีกว่าครับ ยังมีที่สวยๆ อีกข้างบน

(21) (22) (23) (24) (25)(26)(27)    (28)(29) (30)  (31)(32) (33) (34) (35) (36) (37) (38) (39) (40) (41) (42) (43) (44)


<หน้าก่อน|หน้าแรก|หน้าต่อไป>
ต้องการข้ามไปหน้าอื่น คลิกเลือกหน้า ี่สารบัญ ซ้ายมือ