กุ้ลิ สวรรค์บนดิน เมืองในภาพวาด
ตอนที่ 20 ล่องแม่น้ำหลีเจียง

"กุ้ยหลิน นับว่าเป็นจังหวัดที่สวยที่สุดในประเทศจีน หยางชั่ว สวยที่สุดในจังหวัดกุ้ยหลิน"

อีกทีกับสโลแกนจังหวัดกุ้ยหลิน ตรงนี้เป็นจุดแรกของการล่องเรือเพื่อพิสูจน์ว่า หยางชั่ว สวยสักเพียงใด เรามีโปรแกรมล่องเรือ 2 ช่วง คือวันนี้ กับพรุ่งนี้อีกช่วงหนึ่งที่จะดูเมืองลับแลผ่านทางเรือ เราออกจากจุดพักเข้าห้องน้ำ สองข้างทางของกุ้ยหลินนอกเมือง อำเภอหยางชั่วนี้ ทำเกษตรกรรมเป็นหลัก มีรถอีแต๋นเหมือนบ้านเรา(1) แต่ไม่รู้เขาเรียกอีแต๋นเหมือนเราหรือเปล่า ที่กองเป็นช่วงๆ สองข้างถนน เป็นส้มโอ (2) เหลืออร่ามน่ากิน คุณหมาบอกไม่น่าซื้อ ไม่อร่อย เขารับประทานเป็นผัก ไม่ใช่ผลไม้ หมายถึงใช้เปลือกมาแกง หรือทำของหวาน ส่วนเนื้อ ไม่อร่อย ฟ่ามๆ บางทีก็ทิ้งเนื้อ เราเริ่มมองภูเขาสูง ลิบๆ (3-4) คุณหมาบอกว่าคนจีนทั้งหลาย ล้วนอิจฉา คนหยางชั่วที่มีความสุขในสถานที่ที่สวยงามดังรุปวาดพู่กันจีน รูปวาดจีนที่เราเคยเห็น ล้วนได้แรงบันดาลใจมาจากกุ้ยหลิน โดยเฉพาะหยางชั่ว กุ้ยหลินมีภูเขามาก มีคนบอกว่ามียอกเขาถึง 33,333 ยอดเขา (จริงอ่ะ?) มีบางคนถามว่าทำไมเรียกว่าคุณหมา คุณหมาบอกว่าเดิมไม่ได้ชื่อนี้ เพราะว่าเมื่อเรียนภาษาไทย รุ่นนั้นมีเพียงไม่กี่คน ตอนนี้ปีหนึ่งมีคนเรียนภาษาไทยทั้งประเทศปีละนับพันคน ตอนนั้นมีอาจารย์จากประเทศไทยมาสอนแบบวันละ 6 ชั่วโมง ในขณะอาจารย์จีนาสอนเพียงวันละ 4 ชั่วโมงก็ให้พักได้ นักเรียนก็ไม่ชอบ เขียนคำว่าในห้องน้ำ ให้อาจารย์มาเห็น อาจารย์ก็เสียใจมาก อุตส่าห์เดินทางไกลมาจากไทยเพื่อมาสอนให้ ยังถูด่าว่า ให้ใครไปลบก็ไม่กล้า เพราะมีคำต่อท้ายว่าใครลบเป็นหมา อาจารย์ไทยบอกให้คุณหวาง (ไกด์ของเราแซ่หวาง) ได้รับมอบหมายให้ไปลบ เพื่อนๆ เลยเรียกว่า ไอ้หมา ตั้งแต่วันนั้น เมื่อก่อนกลับ อาจารย์ตั้งชื่อภาษาไทยให้ทุกคน คุณหวาง ให้ชื่อขึ้นต้นด้วย วัล ลงท้ายด้วย ลบ เนื่องจากเป็นคนลบคำด่าให้อาจารย์ กลายเป็น วัลลพ ซี่งคุณหมาก็ยินดีใช้ทั้งชื่อหมา และวัลลพ อย่างภูมิใจที่ได้ตอบแทนคุณอาจารย์

(1) (2) (3) (4) (5) (6) (7)

หู่บ้านที่เราผ่าน เหมือนอนุรักษ์ไว้ให้ดูโบราณเหมือนในหนังจีน (8-11) บ้านที่แข็งแรงแต่คร่ำคร่า อยู่อย่างเรียบง่าย หลายบ้านมีหัตถกรรมขาย (12) อย่างเช่นการวาดรูปจากวิวในกุ้ยหลินที่งดงามยิ่ง มีประตูสู่ลำน้ำหลี (13) อุ๊ยๆ บ่เหมียนอิสานบ้านเฮาเลยเนาะพี่เนาะ

(8) (9) (10) (11) (12) (13)

ทางลงล่องเรือ เป็นเก๋งจีน(14) มีบันไดหินลงมาที่ท่าเรือ เป็นเวิ้งน้ำคล้ายอ่าว หรือน้ำหลง เป็นทางน้ำเก่าที่มีสันดอนสูงจนน้ำไม่ผ่าน (15) และมีสายใหม่ห่างออกไปสัก 50 เมตร มองเห็นเรือของชาวกุ้ยหลิน ที่ทำจากไม้หรือไม้ไผ่ ดัดให้งอน ต่อให้เหมือนแพ เขาจะใช้นกในการช่วยจับปลา มีตะเกียงเจ้าพายุน้ำมันก๊าดแขวนหัวเรือ และยืนพาย ซึ่งเราจะพบทั่วไปในลำน้ำหลี่เจียง (แม่น้ำหลี่  เจียงแปลว่าแม่น้ำ บางท่านจึงใช้แม่น้ำหลี่ หรือ Li River) ถ่ายรูปตรงนี้กันเถอะ (16-19) ภาพ ภูเขาสลับซับซ้อน เห็นทั่วไป เขายังเลี้ยงควายกัน บ้านเราหายากแล้ว เราถ่ายรูปริมน้ำสักนิด (20-22) ถ่ายเอียงข้างหน่อย จะได้เห็นวิวด้วย ขออภัยที่องค์ประกอบศิลป์ไม่สมบูรณ์นะคับ

 (14) (15) (16) (17) (18) (19) (20) (21)  (22)

นี่เป็นเรือที่เราใช้ล่องน้ำหลี่กัน (23) เราเริ่มกันที่นี่ (24-25) วิวข้างทาง ธรรมดาๆ ของชาวบ้าน เรือที่เราใช้ เงียบดีมาก เป็นเรือที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ส่วนใหญ่หลบเข้ามาที่ห้องโดยสาร (26-27) เนื่องจากมีน้ำชาจีน กาแฟ ถั่ว ส้ม ของว่างพวกสแน็ก (ของกรุบกรอบ เช่น ลูกเดือยอบฟูอ้ดเป็นแท่ง อร่อยมาก) ส่วนหนึ่งทยอยไปบนดาดฟ้าเรือ ปรึ๋ยสสสส์ หนาวมักๆ ไกด์บอกว่าประมาณ 1-2 องศา แล้วลมจากเรือแล่น มันไชชอนเข้าไปในเสื้อ แต่ก็ วิวสวยดี (28-30) วิวล่องลำน้ำ มีการเลี้ยงเป็ดของชาวบ้าน (31) อยู่เป็นช่วงๆ เป็ดเลี้ยงแบบปล่อย แต่ก็อยู่ในเขตของเขา

(23) (24) (25) (26) (27) (28) (29) (30) (31)

มาดูบรรยากาศบนเรือกัน ถ่ายรูปกันแบบนี้ (32-33) บางท่านก็มีวิดิโอด้วย ผมถ่ายไป พากย์ไป สักครู่ก็ให้พี่อุทัยช่วยเอาวิดิโอไปถ่าย ผมถ่ายรูปดีกว่า น้องนกคนสวยเธอโพสไปทำปกหนังสือ เลยแอบถ่ายมาให้ดู (34) หนาวจนมือชา พักทานน้ำชากันหน่อย นะครับ (32-34) พี่จิ๋วได้รับมอบหมายจากข้างล่างให้มาส่งน้ำส่งขนม พอเสร็จภารกิจก็รีบลงไปอบอุ่นที่ห้องโดยสารต่อ ขอบคุณคับผม เราดูวิวกันเพลินๆ (35-46) มีบางช่วง เลี้ยงปลาในกระชัง ข้างบนฝั่งจะมีกระต๊อบเฝ้าปลา ทำเป็นว่า มีคนอยู่ประจำ เพื่อกันปลาหาย เช่น ตากฝ่า จุดไฟไว้ ที่นี่น้ำใสสะอาด คุณหมาบอกว่าที่นี่เคยน้ำเน่ามาก่อนเหมือนกัน แต่การปรับปรุงครั้งใหญ่ ออกกฎหลายอย่าง ค่อยๆ ใช้น้ำดีไล่ลงไป จะเห็นว่าตอนนี้มีสาหร่ายน้ำจืด ซี่งเป็นอาหารของปลา และเป็นข้อบ่งชี้ทางชีววิทยาว่า น้ำใสสะอาด ทำให้สังเคราะห์แสงได้ แดดส่องถึงได้ (42) แต่เราผิดหวังเล็กน้อย ที่น้ำตื้น เรือไม่สามารถผ่านได้ ท้องเรือ ซี่งแบนอยู่แล้ว ครูดกับพื้นเหมือนเบรก คนขับเรือต้องใช้ไม้ถ่อยันกลับมา ดูได้ไม่ถึงครึ่งทางกระมัง ก็เอาแค่นี้ก่อน เราเลยได้โอกาสกลับลงมาทานของว่างในเรือ ก้อดี ได้อีกบรรยากาศ

(32) (33) (34) (32) (33) (34) (35) (36) (37) (38) (39) (40) (41) (42) (43) (44) (45) (46)

กำหนดล่องเรือชั่วโมงกว่า เหลือประมาณ 30 นาทีก็ขึ้นฝั่งกลับมาที่เดิม นี่เป็นภาพ ข้างริมน้ำ (47-48) และหมู่บ้าน มีของขายเป็นระยะๆ ตามหน้าบ้าน ขออภัยที่ไม่ค่อยชัด เพราะอากาศสลัว แล้วเดินไปถ่ายไป หน้าบ้านหลังบ้าน มีที่นิดหน่อยที่รดน้ำได้ง่าย ก็จะปลูกฝักไว้เป็นหย่อมๆ (51) เดินผ่านโรงเรียน (52) ดูทันสมัยกว่าบ้านเรือนข้างใน เรานั่งรถออกมาเพื่อทัวร์ต่อ ผ่านบ้านเรือนข้างนอกซอย (53) จะเป็นคอนโด อาคารพาณิชย์ ตามแบบของเมือง ไม่ห่างอกไปนัก

 (47) (48) (49) (50) (51) (52) (53)


<หน้าก่อน|หน้าแรก|หน้าต่อไป >
ต้องการข้ามไปหน้าอื่น คลิกเลือกหน้า ี่สารบัญ ซ้ายมือ หรือที่หน้าแรก