:: ไตรรงค์.เน็ต > สุขภาพ > ผักและสวนครัว ::

ผักประจำเดือนตุลาคม - มะเขือเทศ

ดินฟ้าอากาศ

หน้าลม มีลมพัดมาจากตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเริ่มเย็น เป็นช่วงต่อฤดูหนาว ช่วงเปลี่ยนฤดู อากาศเริ่มเย็น ลมกำลังเย็นสบาย แต่ต้องระวังอาหารให้ถูกส่วน ระวังสุขภาพผู้สูงอายุ เพราะภูมิต้านทานน้อย ใช้ผักรสเปรี้ยว ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร

คุณค่าต่อสุขภาพ

มีวิตามินสูง เช่น วิตามินซี รสเปรี้ยวช่วยกระตุ้นน้ำย่อย แก้อาการกรดแห้ง (น้ำย่อยไม่ค่อยมี) แพทย์จีนใช้ลดอาการอาหารไม่ย่อย

เกร็ดที่น่าสนใจ

  • ไลโคปีน (Lycopene)เป็นสารสำคัญที่พบได้ในผลมะเขือเทศ จัดเป็นสารประกอบในกลุ่มแคโรทีนอยด์ชนิดหนึ่งใน 600 ชนิด พบไลโคปีนได้ใน มะเขือเทศ แตงโม เกรพฟรุตสีชมพู ฝรั่งสีชมพู และมะละกอ เป็นต้นพบไลโคปีนในปริมาณตั้งแต่ 0.9 –9.30 กรัม ใน 100 กรัมของมะเขือเทศสด และเพิ่มขึ้นหากนำไปปรุงอาหาร เช่่น ในซอสมะเขือเทศ 6.20 กรัม ซุปมะเขือเทศเข้มข้น 7.99 กรัม ในมะเขือเทศเข้มข้น 5.40-120.0 กรัม ดังนั้นกรณีต้องการประโยชน์จากไลโคปีน ควรรับประทานด้วยการปรุงด้วยความร้อน หรือหมักเป็นซอส จะเพิ่มขึ้นนับหลายเท่า
  • ไลโคปีนเป็นสารประกอบที่ได้รับความสนใจเนื่องจากมีรายงานว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะการลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งที่อวัยวะต่างๆ ที่ชัดเจนที่สุด คือ มะเร็งต่อมลูกหมาก รองลงมา คือมะเร็งปอด กระเพาะอาหาร นอกจากนี้ก็ยังแสดงให้เห็นประโยชน์ของการได้รับไลโคปีนในการลดความเสี่ยงของมะเร็งตับอ่อน ลำไส้ใหญ่ (colon) ทวารหนัก คอหอย ช่องปาก เต้านม ปาก เป็นต้น
  • เป็นผักที่มีวิตามินเอสูง จึงนิยมนำมาบำรุงผิวพรรณ ลดความหยาบกร้านตามผิว จนมักนิยมบอกกันว่า ทานมะเขือเทศบ่อยๆ สิ ผิวจะได้สวย นอกจากนี้ วิตามินเอยังช่วยบำรุงสายตา ช่วยป้องกันตามองไม่ค่อยชัดในที่แสงน้อย
  • มีวิตามิน B1 เป็นสารอาหารที่สำคัญในการพัฒนาการของสมอง ซึ่งวิตามิน นี้มีในมะเขือเทศปริมาณมากการที่ให้เด็กๆ รับประทานมะเขือเทศให้มากจะช่วยทำให้ความจำดีขึ้น ลดอาการอ่อนล้าของสมอง
  • วิตามิน C ที่มีในมะเขือเทศเชื่อว่า มีสรรพคุณในการเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย ช่วยในการห้ามเลือด มีผลวิจัยว่า การรับประทานอย่างน้อย 2 ผล (ประมาณ ผลละ 50 กรัม หรือ 8-10 ลูก/กก.) พบว่าทำให้ความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากลดลง ปัจจุบันมีการทดลองพบว่า มะเขือเทศ มีฤทธิ์ป้องกันโรคความดันโลหิตสูง และมีสารช่วยย่อยอาหารอีกด้วย
  • ในทางแพทย์แผนโบราณจีนถือว่า มะเขือเทศมีรสหวาน เปรี้ยว เย็นเล็กน้อย มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร ทำให้มีน้ำหล่อเลี้ยงดับกระหาย แก้แผลร้อนในช่องปาก เป็นยาดับร้อนถอนพิษ ทำให้เลือดเย็น ลดความดันเลือด เหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้เป็นอาหารของผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคความดัน และโรคตับอักเสบ ถ้ารับประทานมะเขือเทศเป็นประจำวันละ 1-2 ผล จะช่วยให้อาการของโรคดีขึ้น อีกทางหนึ่งด้วย

    หมายเหตุ : การทำให้เลือดเย็น เป็นการรักษาโรคที่เกิดจากความร้อนชนิดหนึ่ง ใช้กับผู้ที่มีอาการ เช่น อาเจียนเป็นเลือด เลือดกำเดาออก ปัสสาวะอุจจาระมีเลือดปน ลิ้นมีจุดสีคล้ำหรือสีม่วงดำ

ผักที่มีสรรพคุณทดแทน

มะขาม มะนาว

ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติม

www.trironk.net