ศรีลังกา อารยธรรมแห่งชมพูทวีป
ตอน
5 Sri Kailasanathar Swamy Devasthanam Temple วัดแขก (วัดฮินดู)

(1) (2) (3) (4)

วัดแขกนี้ ได้ชื่อว่าเป็นวัดฮินดูเก่าแก่ที่สุดในโคลัมโบ ถ้าเพื่อนๆ ดูจากแผนที่ (1) จะพบว่ามันอยู่หลังสถานีรถไฟใหญ่ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นจุดชุมทางรถไฟ เมื่อไกด์ขับรถผ่านไปข้ามทางรถไฟไปทางนี้ ทางเข้ามันเป็นเพียง ถนนแคบๆ ผ่านหมู่บ้านชาวสวน เป็นหลุมบ่อและโคลน เข้าหมู่บ้านชาวบ้านที่แออัด ดูไม่เหมือนกลางใจเมืองหลวงเลย ฝนตกลงมาค่อนข้างหนักระหว่างทาง และทางเข้าก็น่างงมาก ไกด์เปิดหน้าต่างรถถามชาวบ้าน และคนขับตุ๊กตุ๊ก เป็นบางช่วง และบอกผมว่า ไว้ใจผมนะ ผมไม่่ค่อยได้มาบ่อย แต่มันสวยมาก อยากให้ชม ผมบอกว่าแน่นอน ผมไว้ใจคุณ เพียงแต่บรรยากาศมันแปลกมาก เรามาถึงหน้าประตู ราว 15.20 น. พบว่า ปิด(2)  เขาพยายามจะให้ผมเข้าชมให้ได้ ถามคนแถวนั้น ซึ่งเป็นพุทธ ก็ไม่รู้เรื่อง จนคนที่แต่งตัวแขกๆ ผ่านมาเขายอมตากฝนลงไปถาม ได้ความว่าเปิด 16.00 น. ให้เข้าชมได้ ผมบอกไม่เป็นไร ไปต่อ และเปิดกระจกถ่ายรูปนี้ (3) เขาขับรถห่างออกมา เพื่อให้ผมถ่ายมุมกว้างขึ้น (4) และไม่ยอมไป และแนะนำอย่างหนักว่า ฝนตกหนักอย่างนี้ ไปก็ไม่รู้จะให้ดูอะไร รอตรงนี้ดีกว่า ท่าทางมุ่งมั่นหรืออาจไม่อยากฝ่าฝนหนัก ผมก็เลยยอมรอ เขาขอโทษที่ฝนตกทำให้ไม่สามารถเที่ยวได้ดีกว่านี้ ผมบอกว่า เดี๋ยวถึงเวลาเข้าชม ฝนก็จะซา เวลาช่วงนี้เขาได้เล่าเรื่องครอบครัว การทำงาน การเมือง เรื่องราวของศาสนา

(5)  (6) (7) (8)

ถึงเวลา 16.00 น. ผู้ดูแล คิดว่าเป็นนักบวช ก็เริ่มมาเปิดประตูใหญ่ และเปิดประตูเล็กซ้ายขวาอีกที ไกด์มีร่มหลังรถคันหนึ่งให้ผมยืม เราต้องถอดรองเท้าไว้ในรถ ผมถอดถุงเท้าด้วย เพราะน้ำฝนระดับสูงสัก 10 ซม. เขาเอารถไปจอดประตูซ้าย คิดว่าทางเข้ากลางคงเป็นประตูเฉพาะ มองจากข้างใน (5) ประตูทางเข้าน่าจะเป็นส่วนที่สูงกว่าสิ่งปลูกสร้างภายใน ประดับด้วยเทพ สาวก และสัตว์ของเทพ ด้านซ้ายเป็นอาคารที่ใช้เตรียมพิธีการ และใช้ซ่อมแซมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ทางเดินประมาณตัวยูคว่ำ รอบโบสถ์ ขวามือนี้เป็นผนังด้านนอกของโบสถ์ (6) ด้านบนมีสัตว์เทพ และเทวรูป ซึ่งทั้งผม และไกด์ไม่รู้จัก(ไม่แน่ใจ) ต้องขออภัย ตรงกลางเป็นโบสถ์(8) ผมไม่ทราบว่าเขาเรียกโบสถ์ หรือไม่ เป็นที่ทำพิธีต่างๆ นักบวช หรืออาจเป็นผู้ดูแล เข้ามาทักทายและแจ้งว่า หากต้องการถ่ายรูป ต้องจ่าย 100 รูปี (ประมาณ 25 บาท) ผมก็จ่ายและขอบคุณ และถามว่ามีค่าอะไรอีกไหมต้องจ่าย เขาบอกไม่มี เชิญชมตามสบาย ลองไปดูกันเลยครับ  

(9) (10) (11) (12) (13) (14) (15) (16)

ไกด์ยืนรอในโบสถ์ โดยอ้างว่า ให้เดินได้ตามสบาย เพราะอธิบายไม่ถูก รอบๆ มีปลูกต้นไม้ (9) ซึ่งเราไม่ค่อยพบวัดแขกมีต้นไม้กันนัก วัดนี้ ในแผนที่บางทีเรียกว่า วัดสวนกัปตัน หรือวัดสวนกัปตันโควีล (Captain's Garden Kovil temple) อาจเพราะแถวนี้เป็นแถบที่ทำสวนกันมาก บางคนบอกเป็นที่สวนของนายโควีลในสมัยอาณานิคม มีสระบัว(10) ที่มีเทวรูปสรงสนานรอบๆ ด้านหลังเป็นทางออก(11) ที่ยังดูเป็นต้นไม้ๆ อาจจะเป็นสวน อาคารและระเบียงคตรอบๆ มีตกแต่งด้านบน ด้วยเทวรูป (12-16) ให้ความรู้สึกว่าเราอยู่ในสายตาเทพเจ้าตลอดเวลาในนี้ บางจุดมีซุ้มมีเทวรูปบางองค์ด้านในซุ้ม อาจมีที่บูชาด้านนอกด้วย

(17) (18) (19) (20) (21) (22) (23) (24) (25)

ช่วงผมเดินรอบๆ อาคารนี้ ไกด์ก็สำรวจ และเมื่อผมมาถึงก็ชวนไปไหว้เทพเจ้าต่างๆ ในอาคาร (17) อาจเพราะเป็นภาษาสิงหล ผมไม่รู้ว่าหมายถึงเทพองค์ใด ได้แต่ไหว้เคารพตามไป โดยรวมเป็นเทพสูงสุดทั้ง 3 องค์ และเน้นองค์พระศิวะเป็นเทพสูงสุด และได้รับการบูชาสูงสุด เราได้รับอนุญาตเข้าไปภายใน แบ่งเป็นฟากผู้กราบไหว้ ผู้ชายซ้าย ผู้หญิงขวา ไม่ปนกัน (18) ภายในมีพระบุตรของพระศิวะที่ได้รับการบูชาสูงอีกองค์คือพระพิฆเนศ (19) เนื่องจากมักขอพรกัน ด้านบนมีตกแต่งด้วยเทวรูป ดูหลายองค์คุ้นเคย เคยเห็นกัน มีภาพปูนเปียก หรือภาพวาดบนเพดาน (20) ไกด์ผมยืนรอพร้อมร่มใกล้ทางออก (21) เขาบอกยังไม่กลับ คุณน่าจะถ่ายภายในก่อน และนี่เป็นภาพภายในที่ไกด์แนะนำ ซุ้มเทพ (22) ส่วนใหญ่มีประตูเหล็กกั้นไว้ คิดว่าคงสร้างด้วยวัสดุมีค่า หรือทรงมีค่าเอง มีภาพวาด (23) กลางเพดานที่โด่งดัง ใครมาก็จะถ่ายภาพนี้ มีส่วนทำพิธีกรรม (24) สวยงามดูขลังมาก และด้านในของประตูใหญ่ทางออก (25) เป็นภาพสุดท้ายของที่นี่ครับ

เรายังทีที่เที่ยวในโคลัมโบ ศรีลังกา อีกหลายที่ ติดตามนะครับ

<กลับตอนก่อน | ศรีลังกา | ตอนต่อไป>

| Trironk.net |ท่องโลก | ศรีลังกา |