ศรีลังกา อารยธรรมแห่งชมพูทวีป
ตอน
3 มายาราตรี

วันนี้เป็นวันที่สองที่อยู่ศรีลังกา ตื่นเช้าๆ อากาศเย็นๆ ราว 20 องศา C มีหมอกเล็กน้อย (1) มาทานอาหารเช้าราว 7 โมงครึ่ง อาหารในโรงแรม มีเน้นแบบศรีลังกา พื้นฐานมีข้าว ที่ทำเป็นก้อนๆ และแผ่นๆ หลายแบบ ส่วนไข่ดาวจะทำแผ่นกรอบด้วยแป้งก่อนตอกไข่ลงไป ก็จะเหมือนรังนกตั้งๆ ที่มีไข่ดาวตรงกลาง มีแกงหลายอย่าง มีเครื่องเทศทุกอย่างคล้ายพะแนง หรือแกงกะหรี่ แต่กลิ่นไม่แรงเท่าอาหารอินเดีย มีข้าวปั้นญี่ปุ่น มีก๋วยเตี๋ยวแขก และมีพวกขนมปังทาเนยทาแยม หรือซีเรียล เสริฟชาซีลอนเป็นหลัก หากต้องการน้ำ หรือกาแฟ ก็ขอได้ แต่ไม่มีให้รับเอง ผลไม้ตามฤดูกาล ที่หั่นชิ้นเท่าหัวแม่มือหรือปลายนิ้วก้อย  คือเสาวรส สับปะรด แตงโม และมะละกอสุก ทานเสร็จไปลงทะเบียน ซึ่งต้องลงทั้งเช้าและบ่าย จัดห้องแบบโต๊ะทานอาหาร (2) กลางวันก็ไปตักข้าวข้างๆ ห้องมานั่งตรงนี้ นั่งไม่สบาย แต่คงสะดวกเขา ได้ป้ายห้อยคอมาอันนึ่ง (3) ไม่มีเอกสารเลย กังวลนิดหน่อยว่าจะเอาอะไรไปสรุป งานเปิดโดยมีการตีกลองมาจากหลังห้อง แล้วมีนักรำออกมารำต้อนรับแบบศรีลังกา (4-5) จากนั้นเชิญบางคน น่าจะเป็นบุคคลสำคัญของงาน มาร่วมกันจุดโคมเสา เป็นเสาที่หล่อด้วยโลหะ มีตะเกียงน้ำมันเป็นชั้นๆ ชั้นละประมาณ 5 โคม เหมือนฉัตร 5 ชั้น แล้วก็เปิดประชุมเลย (6) ประมาณ 10.30 และ 14.30 พักทานอาหารว่าง เขาไปเข้าคิวรับอาหารว่าง พวกขนมปัง หรืออะไรที่เป็นแป้งๆ ซึ่งเยอะมากเหมือนมื้อหนึ่ง เต็มจาน เมื่อกินเสร็จถึงไปรับกาแฟ หรือชา มีแค่กาแฟ และชา ไม่มีโอวัลติน หรือน้ำเย็น เขาก็แปลกใจกันที่ผมไม่ทานของว่าง (ปกติผมก็ไม่ทานของว่างกับกาแฟ) ของว่างมันน่าจะดูเบาๆ ใช่ไหมครับ เช่นเค้กฟูๆ สักชิ้นทานพร้อมกาแฟ ปรับตัวไม่ทัน เลยทานแต่กาแฟครับ ส่วนเวลาอาหารกลางวัน เลิกพักตอน 12.30 น. ก็แปลกด้วย กลางวันเขาไม่ตักอาหาร ไปรอทานซุป เข้าคิวยาว ดูเหมือนจะเป็นซุปข้าวโพด คิดว่านะครับ ใส่นมเนยและเครื่องเทศทานกับขนมปัง พวกไม่ค่อยรู้เรื่องอย่างผมก็ไปตักข้าวมากินก่อน เขินจังเลย เพื่อนชาวมาเลเซียซึ่งมานั่งข้างๆ ผม ไหวตัวทันก็ไปเข้าคิวได้ซุปถ้วยหนึ่งและขนมปังมาก้อนหนึ่ง ลองชิมดูก็บอกรสชาติแปลกๆ ผมเลยไม่กล้าลอง อาหารจะเค็มทุกชนิด และรสชาติเต็มไปด้วยเครื่องเทศ คิดว่าเขาคงปรับสูตรเพื่อคนทั่วไปนอกศรีลังกา มันเลี่ยนๆ มันๆ และเค็ม ถือว่าแปลกสำหรับผมซึ่งชอบอาหารทุกประเภท แต่ที่นี่ ก็รสกลางๆ ผมพบลวดลายที่ลงตัวของที่นี่ ลายดอกบัวฉลุ (7) ชอบครับ สวยดี มันคงเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมนี้ พบเป็นลายที่ใช้แต่งทั่วไปทั่วโรงแรม

(1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (A)

ช่วงบ่าย มีเจ้าหน้าที่มาบอกว่าให้ผมขึ้นบรรยาย ผมก็ถามว่าให้บรรยายอะไร เขาบอกว่าตามที่คุณส่งมาเกี่ยวกับประสบการณ์การบำบัดน้ำผลิตประปาในญี่ปุ่น ผมเลยอ๋อ... เขาคิดว่าผมเป็นคนญี่ปุ่น ผมบอกว่าผมเป็นคนไทยนะ คงเข้าใจผิดมั้ง ไม่ใช่ผม เขาก็โวยวายว่า อ้าวไม่ขึ้นแล้วจะให้ใครขึ้น (ก้อผมบอกว่าคนไทย ไม่ใช่คนญี่ปุ่น ไม่ใช่ผม) แล้วคนพูดไปนั่งตรงไหน ผมก็บอกว่าไม่รู้จัก ค่อยๆ ถามนะ ขำจังหน้าผมออกจะไทยๆ โบราณๆ เพื่อนชาวมาเลเซียนั่งข้างๆ ขำใหญ่เลย เขาก็ดูจีนๆ กว่าผม กลับไม่สงสัย เขาว่าผมหน้าจีนๆ คงเข้าใจว่าเป็นญี่ปุ่นแหละ กลับไปดูรูปเมื่อวาน (A) ก็คล้ายญี่ปุ่นอยู่นะ อิอิ กลางวันนี้ได้รับบัตรเชิญของรัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมให้ร่วมงานคอกเทล ริมสระ พร้อมการแสดงเต้นรำศรีลังกาโบราณ ตอน 1 ทุ่ม เราเลิกราว 17.30 น. มีเวลามาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อย พอฟ้ามืดก็มีฝนปรอยๆ ฟ้าแลบ (8) ลงมาก่อน 18.30 เขาก็กินกันแล้ว เป็นงานเลี้ยงในห้องเล็กๆ ราว 40 ตร.ม. ติดทางออกไปสระว่ายน้ำ (9) อาหารเป็นพวก ผลไม้เสียบไม้ เค้กต่างๆ ชิ้นพอคำ มีไข่ในรังทำให้ด้วย สำหรับตักข้าวผัดราดแกงกะหรี่ มีปีกกลางชิ้นเล็กๆ ทอด มีชิส มีกับแกล้ม มีไวน์ เบียร์ และโค้ก ใครต้องการนั่งมีโต๊ะริมสระไว้บ้าง ผมเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาเลยเอาสูท เอาเน็คไทไปเก็บ ได้ยินเสียงดนตรี เลยชะโงกจากห้องชั้น 22ไปดูเขาเริ่มการแสดงแล้ว (10) เป็นการแสดงโบราณ เลยต้องรีบลงมา และมีการแสดงสตรีทแดนซ์  ต่อ (11-12)

(8) (9) (10) (11) (12)

ได้ยินว่า รัฐมนตรีมา แต่มาตอนไหนกลับตอนไหนก็ไม่ทราบ ไม่มีพิธีกร ไม่มีการบอกว่าทำอะไร แสดงอะไร เริ่มตอนไหนเสร็จตอนไหน กินกันไป คุยกันไป อยากกลับก็กลับ คนร่วมประชุมก็เซ็ง อยากแสดงก็วิ่งออกมา ตีกลอง เต้นๆ กลุ่มเดิม แค่เปลี่ยนชุดนิดหน่อย เครื่องดนตรีกลองสองชิ้นเดิมๆ ทุกรายการ แค่การแสดงที่สอง ราวทุ่มครึ่งคนก็หายไปครึ่งหนึ่ง ผมได้ไวน์แดงแก้วหนึ่งมานั่งฟากตรงข้ามจุดแสดง หาขนมบ้าง หาของว่างบ้าง หากับแกล้มบ้าง มากินกะไวน์ชมการแสดง (13) เป็นโต๊ะเรืองแสงข้างเตียงเอนอาบแดดริมสระ มองไปเห็นห้องอยู่ข้างบน(14) และพากตรงข้าม เป็นการแสดง (15-23) ผมไม่รีบไปไหน มันก็สวยดี ชอบมาก ถึงไม่รู้เรื่องว่าเต้นอะไร เพราะไม่มีใครบรรยาย ดูจนจบรวม 5 ชุด ฝนตกก็หลบ ฝนซาก็ออกมาใหม่ ถ่ายรูปไป ถ่ายวิดิโอไป สบายดี และผ่อนคลายดี เขาแสดงน่ารักดีออก จนชุดสุดท้าย คนเหลือสัก 10 คน เลยไปถามบริกรว่ามีอะไรอีก เขาบอกว่าเสร็จแล้วจบแล้ว อ้าว จบดื้อๆ

(13) (14) (15) (16) (17) (18) (19) (20) (21) (22) (23)

ส่งเพื่อนๆ เข้านอนด้วยภาพถ่ายด้วยเลนส์ตาปลา (24)ให้เห็นทั้งตึกจากริมสระน้ำ ชั้น 3 ห้องผมอยู่ชั้น 22 ฟากขวามือที่มีไฟเปิดอยู่ มี 3 ห้อง นอน 3 วัน กะจะนอนวันละห้อง แต่ห้องใหญ่ดูสบายดี เลยนอนห้องเดิมละกัน พรุ่งนี้เจอกันอีกครับจะพาไปชมเมืองนะครับ

(24)

<กลับตอนก่อน | ศรีลังกา | ตอนต่อไป>

| Trironk.net |ท่องโลก | ศรีลังกา |