กุ้ลิ สวรรค์บนดิน เมืองในภาพวาด
ตอนที่ 25 ชอปปิ้ง

เราเดินทางกลับมาที่เมืองกุ้ยหลิน เพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง เมื่อวานไกด์ฉายหนัง โฆษณากุ้ยหลิน ซึ่งรัฐบาลทุ่มทุนนับพันล้านบาท ต่อด้วย จอมใจบ้านมีดบิน ซึ่งสร้างโดย จางอี้โหมว เช่นเดียวกัน แต่ไม่จบ เราขอดูจนจบ เพระติดเสียแล้ว อยากรู้ว่านางเอก จะตายไหม เป็นภาพยนตร์ที่มีวืวสวยงามจรืงๆ ไม่กี่นาทีก่อนถึงที่ชอปปิ้งก็จบ นี่ยังคิดจะหาภาพยนตร์ของจางอี้โหมวมาดู เขานับว่าเป็นอัจฉริยะของจีนท่านหนึ่งเลย ภาพยนตร์คุณภาพที่น่าสนใจคงติดตามอีก แต่ตอนนี้ เรามาถึงตลาดใต้ดิน ที่เราสามารถหาของฝากได้ที่นี่ เราจอดรถใกล้ร้านอาหาร และเดินไปอีกนิด ถึงจตุรัสกลางเมืองกุ้ยหลิน เป็นพื้นที่กว้างๆ คล้ายสนามหลวง บ้านเรา แต่ไม่กว้างเท่า ใต้ดินทำเป็นตลาด คล้ายโบ้เบ้ หรือจตุจักรบ้านเรา สินค้า เนื่องจากเป็นเมืองหนาว ก็เน้นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ของใช้ในบ้าน ขนม คุณภาพกลางๆ ถึงต่ำ แต่ราคาแพง  มีร้านขายของที่ระลึกที่ราคาถูกอบู่บ้าง เช่น ร้าน 2 หยวน (เราตั้งชื่อเอง ผ่านไปมีแต่พวกเรารุมเต็ม ราคาโปรโมชั่นราวครึ่งร้าน ชิ้นละ 2 หยวน (ราว 10 บาท) ร้านใต้ดินนี้ มีร้านเยอะ คิดคร่าวๆ น่าจะเป็นกว่า 500 ร้านค้า (กะนะ ไม่แน่ใจ) คนจีนทั้งหลาย ก็นิยมเดินมาชอปปิ้งกันเยอะ โดยเฉพาะวัยรุ่น เดินจนเมื่อย ผมกับพี่อุทัย เดินจนเมื่อย มานั่งกินที่ลานน้ำพุชั้นใต้ดิน พอหายเหนื่อย ก็ชวนกันไปถ่ายรูปที่จตุรัสข้างบนกันดีกว่า

(1) (2) (3) (4) (5) (6)  (7) (8) (9) (10) (11) (12)  (13)   (14) (15) (16)

ข้างบนเป็นลานกว้างแบบสนามหลวง ด้านข้าง ปูด้วยหินแกรนิตขัดมัน และขัดหยาบกันลื่น หรือเป็นลาย คนเดินเพื่อผ่านไปมาบางตา เพราะอุณหภูมิที่นี่ราว 3 องศาเซลเซียส นี่เป็นศํนย์ หรือห้องบริการข้อมูลนักท่องเที่ยว (1) เรียกว่า ความประทับใจแห่งกุ้ยหลิน (ตั้งชื่อได้น่ารักดี) โอ๊วๆ ถังขยะอีกแล้ว สวยดี พี่อุทัยเป็นนายแบบให้หน่อย (2) ถังขยะที่นี่ทำด้วยสแตนเลส ซี่งไม่เคยเจอมาก่อน คงออกแบบให้เข้ากับพื้นแกรนิต ทำให้ดูดีด้วย และตามเคย ถังขยะ ยังขายพื้นที่โฆษณาเอารายได้เข้ารัฐ ทุกที่ ถ้าบ้านเรามีโฆษณาบนถังขยะ คงแย่งกันน่าดู เพราะมีถังขยะ เต็มไปหมดนับแสนๆ จุดใน กทม. (ชี้โพรงให้เสือ เอ๊ย! ให้กระรอกรึเปล่า?) และยังมี จอทีวียักษ์ กว้างน่าเกิน 10 เมตร อยู่บนตึก(3-4) แสดงได้ทั้งตัวหนังสือ ภาพ ภายนตร์ และเสียง และยังใช้ด้านล่างเป็นเวทีคอนเสิร์ต บางทีจะใช้ประโยชน์ตอนที่แสดงคอนเสิร์ตด้วยกระมัง ภาพรอบๆ (5-6-7) รอบๆ ลานแกรนิต ยังมีบริการรถเด็ก (9) ของขายอีกหลายร้าน เห็นเป็นตุ๊กตา เสื้อผ้า เสียส่วนใหญ่ (10-11) ซึ่งเลยไปหน่อย เป็นเครื่องดื่มร้อนๆ ผมกับพี่อุทัยไปซื้อ ซุปข้าวโพดสด มานั่งทาน หวาน อุ่น อร่อย แต่ก็ไม่คลายหนาว เราเลยตัดสินใจเดิน ไปดูรอบๆ รออาหารเย็นกัน และนี่เป็นภาพที่ผมกับพี่อุทัย เดินไปดูกัน (12-13-14-15-16) ผ่านจตุรัสไปและดูของขายกัน

(17) (18) (19) (20) (21) (22)

ข้างจตุรัส เป็นถนนคนเดิน (17-18) ช่วงนี้เป็นช่วงเลิกงานแล้ว หลายคนหาของกินกัน มีอนุสาวรีย์ (19) ให้ดูการแต่งตัวของคนทำงานที่นี่ คล้ายที่เห็นในหนังจีนพวกเซี่ยงไฮ หรือฮ่องกง ดูทันสมัย ไม่เหมือนคนจีนชาวบ้านสองสามวันที่ผ่านมา โอ๊ววว ถังขยะอีกแล้ว ผมชอบจังเลยที่บอกให้พี่อุทัยเป็นแบบ (20) โดยไม่ทราบว่านี่เป็นนายแบบคู่กับถังขยะ (เหอๆ ขออภัยร้อยครั้ง) นี่เป็นถังขยะยอดนิยม ที่พบทั่วไปในเขตปกครองตนเองกวางสี หากไม่ใช่พื้นที่พิเศษ จะเป็นอย่างนี้หมด ดูสวยพอใช้ ไม่ค่อยขัดตา และยังง่ายต่อการเข้าใจว่า ด้านหนึ่งเป็นถัวใส่ขยะทั่วไป อีกด้านเป็นถังขยะที่ใส่ขยะรีไซเคิ่ล เราไม่ค่อยได้เจอ อาหารฝรั่ง มากนัก แต่ลุงเค็น (เค็นตั๊กกี้ ฟรายชิกเก้น) ก็ยังเปิดสาขาได้ (21) แม้ว่าไกด์หมาจะพยายามบอกว่า เจ้งไปหลายสาขา เนื่องจากคนจีนไม่ค่อยสนใจอาหารฝรั่ง อาหารที่กุ้ยหลิน อันโปรดปราน ยังคงเป็นก๋วยเตี๋ยวจีน (อย่าคิดว่า ก๋วยเตี๋ยวจีนกับไทยจะเหมือนกัน) เขาบอกนอกจากถูกปาก และยังราคาถูกด้วย ก๋วยเต๋ยวถ้วยหนึ่งราคาขายทั่วไปอยู่ที่ 2.5 หยวน (ประมาณ 12 บาท) ขณะที่เคเอฟซี่ แพงลิ่ว (แม้ว่าจะถูกกว่าบ้านเรา) แต่ที่ผมเห็น ลูกค้าก็ยังเต็มเสมอ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ วัยรุ่นและเด็กเหมือนบ้านเรา สองฟากถนนคนเดิน ร้านส่วยใหญ่เป็นร้านจีน แต่ตรงกลาง(22) ดูจากภาพ 22 ร้านขวามือ มีทั้งอาหารญี่ปุ่น อิตาเลียน ร้านกาแฟ ก็คนเต็ม บางทีจะเป็นเพราะข้างนอกหนาว เข้าไปรับไออุ่นโดยซื้อของกินนิดหน่อย เพื่อเป็นที่คุยกันสักพักก่อนกลับบ้าน

 (23) (24) (25) (26) (27) (28) (29) (30) (31) (32)

ผมกับพี่อุทัย เดินเล่นท่ามกลางความหนาวเย็น เพื่อเก็บความทรงจำไว้ คืนนี้เราก็ต้องกลับประเทศไทยแล้ว ดังนั้น ใช้เวลาดูให้มาก เมื่อทะลุถนนคนเดิน ก็พบว่า เป็นแม่น้ำหลี่ (แม่น้ำหลีเจียง (23-24) แม่น้ำหลี่ ฟากที่เรายืนอยู่ นับเป็นฟากในเมือง จะถูกปรับภูมิทัศน์ อย่างดี เช่น พื้นแกรนิต ปูถนนคนเดินกว้างกว่าถนน ขอบถนนคนเดิน  เสาและรั้วหินอ่อน สลักอย่างงสวยงาม ภาพสะพานข้ามแม่น้ำ (27-28-29) เลียนแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิม คล้ายสะพานดอกไม้ในสวนเจ็ดดาว ฟากตรงข้ามของแม่น้ำหลี่ เป็นบ้านเรือนเก่าแก่ (30) ผมว่าดูคลาสิกดี เหมือนภาพวาด เมื่อเราลงมาข้างล่าง ก็พบว่า เลยไปไม่ไกลนัก จะเห็น เขางวงช้างที่เราไปมาวันก่อน  หมายความว่า สถานที่ท่องเที่ยวกุ้ยหลิน วนไปวนมาใกล้ๆ กัน เนื่องจากเป็นเมื่องที่ไม่กว้างนัก

(33) (34) (35 (36) (37) (38) (39) (40) (41) (42) (43)

เหลือเวลาราว 20 นาที จะถึงเวลาอาหาร เรากลับมาจุดนัดพบ ที่เราลงรถทัวร์ ด้านหน้าของภัตตาคารที่เราจะทานอาหารเย็นมื้อสุดท้ายของทิป มองผ่านทะเลสาบหลงซานหู ซึ่งเราไปเยี่ยมชมเจดีย์เงินเจดีย์ทอง (33-34-35-36-37-38-39-40-41-42-43) ใบหลิวนี้เป็นโฟร์กราวน์ ที่ดูเข้ากับบรรยากาศจีนๆ ดี

(44) (45)

ภัตตาคารที่เราทานอาหานเย็น ชื่อ Congee City of Guilin (44-45) เป็นอาหารจีนที่อร่อย แล้วก็ถึงเวลา เราช่วยกันให้ทิป ไกด์ เป็นการขอบคุณ โดยให้พี่ทองเป็นตัวแทน (46-47) ที่บนรถ เย้ว! กลับบ้านได้แล้ว รถมาส่งเราที่สนามบินกุ้ยหลิน ของฝากพวกขนม อาหาร ที่เราฝากไกด์วัลลพ ได้รับที่นี่ แล้วก็เช็คอิน 

(46) (47) (48)  (49) (50) (51) (52) (53) (54) (55) (56)

สวัสดีกุ้ยหลินสวรรค์บนดิน เมืองในภาพวาด สักวันคงได้กลับมาเยือน


<หน้าก่อน|หน้าแรก|
ต้องการข้ามไปหน้าอื่น คลิกไปเลือกหน้า ที่สารบัญซ้ายมือ หรือกลับไปเลือกหน้าแรก

จ๊าก! มาถึงสุวรรณภูมิ ร้อนมักๆ จาก 0 องศา สุวรรณภูมิ 37องศา นี่กลางคืนนะ แต่ปรับตัวไม่ทัน พี่แท็กซี่ ขอเร่งแอร์หน่อย รู้สึกเหมียนสิเป็นลมแล้ว ขอบคุณคับ