วันแรกถึงสัปดาห์ที่ 4
ลูก ตัวอ่อนจะงอมาหน้า จนส่วนหัวและหางจรดกัน มีตา หู
และจมูกเกิดขึ้น ตัวยาวประมาณ 1 ซม. แม่ ช่วง 3 สัปดาห์แรกที่ตั้งครรภ์
ร่างกายภายนอกอาจจะยังไม่ค่อยเห็นความผิดปกติ แต่ที่ชัดเจนคือ
ประจำเดือนขาด ไม่มาตามปกติ
ข้อห้าม ผู้เป็นแม่เมื่อรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ต้องงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
และงดสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด เพื่อสุขภาพของตัวเองและลูกในครรภ์ |
 |
สัปดาห์ที่ 5-8
ลูก ตัวจะยาว 4 ซม. รูปทรงศีรษะชัดเจนมากขึ้น
แขนและขายังสั้นอยู่ ระยะปลายเดือนที่ 2 นี้ ศีรษะจะโตขึ้นมาก
เนื่องจากมีมันสมองมากขึ้น จมูก ปก และหูยังไม่โต
แต่ส่วนแขนและขาจะเจริญมากขึ้น และเริ่มมีอวัยวะสืบพันธุ์ แม่ ช่วงนี้จะรู้สึกเจ็บและตึงบริเวณเต้านม
เริ่มมีอาการแพ้ท้อง คลื่นเหียนอาเจียน และปัสสาวะบ่อยๆ
อารมณ์ของแม่ช่วงนี้จะไม่ค่อยแจ่มใสนัก ข้อห้าม ระยะนี้ควรงดออกกำลังกายอย่างเด็ดขาด
ไม่ว่าจะเบาหรือหนัก และข้อสำคัญ ควรไปฝากครรภ์
ให้แพทย์ได้ตรวจเป็นระยะๆ |
 |
สัปดาห์ที่ 9-10
ลูก ตัวจะยาว 7-9 ซม.
ลักษณะมือและเท้าจะแตกต่างกันอย่างชัดเจนและมีเล็บเกิดขึ้น
อวัยวะสืบพันธุ์จะแสดงลักษณะของเพศได้ชัดเจน และหัวจะโตมากขึ้น แม่ ช่วงนี้จะยังมีอาการแพ้อยู่
และน้ำหนักจะเริ่มเพิ่มขึ้น รูปร่างจะยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
อารมณ์ของแม่จะแจ่มใสขึ้น
ข้อแนะนำ ผู้เป็นแม่ควรทำจิตใจให้แจ่มใส
หาที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ เช่น เดินชมดอกไม้ ชมธรรมชาติ
เพื่อให้ทารกในครรภ์ได้รับอากาศสดชื่นไปด้วย |
 |
สัปดาห์ที่ 11-16
ลูก ตัวจะยาวประมาณ 17 ซม. และน้ำหนัก 120 กรัม
ลักษณะอวัยวะทุกส่วนและอวัยวะเพศจะชัดเจนขึ้น เริ่มมีขนอ่อน ผิวหนังแดง
และจะดิ้นจนรู้สึกได้ แม่ น้ำหนักจะเพิ่มมากขึ้น ร่างกายเริ่มปรับสภาพได้
อาการแพ้และหน้ามืดวิงเวียนจะหายไป ตื่นขึ้นมาอารมณ์ก็จะแจ่มใสมากขึ้น
ข้อแนะนำ ควรไปพบแพทย์ที่ฝากครรภ์ตามนัดหมาย
เพื่อให้แพทย์ได้วางโปรแกรมปฏิบัติก่อนถึงวันคลอด |
 |
สัปดาห์ที่ 17-20
ลูก มีไขปกคลุมมากขึ้น ผิวหนังใสเหมือนเดิม
มีผมขึ้นทั่วศีรษะ ตัวยาวประมาณ 18-27 ซม. แม่ รูปร่างแสดงให้เห็นว่ามีครรภ์ชัดเจนขึ้น
น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5-7 กิโลกรัม ข้อแนะนำ ผู้เป็นแม่จะเริ่มรับประทานอาหารได้มากขึ้น
เพราะทารกเริ่มกินอาหารจากนก สุขภาพจิตของแม่จะดี
ควรพักผ่อนโดยฟังเพลงเบาๆ บ้าง |
 |
สัปดาห์ที่ 21-24
ลูก มีขนอ่อนทั่วตัว มีขนตาและขนคิ้ว ผิวหนังมีรอยย่น
รูปร่างดีขึ้น ตัวยาวประมาณ 28-34 ซม. และดิ้นได้ แม่ น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละครึ่งกิโลกรัม
ทรวงอกจะมีขนาดใหญ่ขึ้น หัวนมจะดำ ข้อแนะนำ คุณแม่ควรมีการฝึกทักษะต่างๆ
เกี่ยวกับการใช้กล้ามเนื้อ ฝึกการหายใจเข้าและออกในแบบต่างๆ
เพราะหากคุณแม่ทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ในเวลาคลอดจริง
กล้ามเนื้อจะได้ทำงานอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ |
 |
สัปดาห์ที่ 25-28
ลูก ผิวหนังปกคลุมด้วยไข่โดยทั่ว ลำตัวจะยาวประมาณ 35-38
ซม. ในเพศชาย อัณฑะจะเลื่อนมาอยู่ในถุงอัณฑะแล้ว ค่อยๆ
มีการเคลื่อนไหวของแขนขา ช่วงนี้ต้องอาศัยการดูแลอย่างใกล้ชิด แม่ ยามว่างๆ คุณแม่ควรเตรียมเก็บของ เครื่องมือ
เครื่องใช้ เสื้อผ้าที่จำเป็น และของใช้ของลูก
เพื่อเตรียมตัวเข้าโรงพยาบาล
ข้อแนะนำ คุณแม่ควรจะเริ่มนอนตะแคงได้แล้ว
เพราะท้องขยายใหญ่ขึ้น
ข้อห้าม
คุณแม่ที่ทำงานออฟฟิศ และติดชา กาแฟ ต้องงดให้หมด เพราะจะเป็นตัวเสริม
ตัวเร่งให้คลอดก่อนกำหนด และควรงดการเดินทางไกล |
 |
สัปดาห์ที่ 29-32
ลูก
ตัวยาวประมาณ 40 ซม. และมีน้ำหนักประมาณ 2,000 กรัม
ผิวหนังจะแดงและเหี่ยวย่นเหมือนคนแก่ ทั้งยังสามารถเคลื่อนไหวไปรอบๆ ได
แม่
น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นอีก จนทำให้ก้นและขาอ่อนขยายออก
ผู้เป็นแม่จะรู้สึกว่าตัวใหญ่ยักษ์ ทำอะไรก็งุ่มง่าม ขี้ลืมง่าย
ข้อแนะนำ คุณแม่ควรลดอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล
เนื่องจากสรอาหารเหล่านี้จะไปเพิ่มน้ำหนักให้คุณแม่ (เกินความจำเป็น)
ควรจะปรับเปลี่ยนการกินใหม่ โดยเน้นอาหารที่ให้โปรตีนสูง เช่น เนื้อปลา
นม ปลาตัวเล็กๆ ผัก และผลไม้ เพื่อเตรียมสะสมไว้เป็นน้ำนมให้กับลูกน้อย |
 |
สัปดาห์ที่ 33-36
ลูก
ทารกอยู่ในครรภ์ครบ 9 เดือน จะมีน้ำหนักประมาณ 2,500 กรัม
มีไขมันใต้ผิวหนังมากขึ้น มีร่างกายอ้วนขึ้น ผิวหนังที่ย่นกลับตึง
มีเล็บยาว เรียกว่ามีรูปร่างเกือบสมบูรณ์แล้ว
แม่
น้ำหนักจะค่อนข้างคงที่ แต่ทารกยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว
ในช่วงนี้คุณแม่มีอาการหรือความรู้สึกว่า
เจ้าตัวน้อยของคุณแม่เคลื่อนตัวลงมาอยู่ต่ำบริเวณหัวหน่าว
(ตรงท้องน้อย)
ข้อแนะนำ ผู้เป็นแม่ควรพักผ่อนให้มาก
โดยอาจหาเวลานอนตอนกลางวัน ถ้าเป็นไปได้ควรมีผู้ใกล้ชิด
เพราะอาจจะทำให้เกิดการเจ็บท้องคลอดอย่างฉับพลันได้ |
 |
สัปดาห์ที่ 37-40
ลูก
มีน้ำหนักเกิน 2,500 กรัม ครบกำหนดคลอด ผิวจะมีสีชมพู
และร้องทันทีเมื่อคลอดพร้อมทั้งลืมตาและยกขาปัดไปมาได้
แม่
หากคุณแม่เริ่มมีอาการปวดเกร็งหน้าท้อง (มดลูก) หรือปวดคล้ายๆ
ตอนมีประจำเดือน แต่มีความปวดที่รุนแรงมากกว่า เกิดขึ้นบ่อยๆ
ติดกันเป็นชั่วโมงๆ ควรรีบไปโรงพยาบาล
ข้อแนะนำ ควรจัดของใช้ที่จำเป็นสำหรับคุณแม่และเด็ก
รวมทั้งบัตรโรงพยาบาลให้พร้อม |
 |