กลับหน้าแรก
ฟื้นฟูที่สมุทรสงคราม
วันที่ 3 กพ.52 เช้า บ่าย

วันที่ 4 กพ.52 เช้า สาย เที่ยง บ่าย
วันที่
5 กพ.52 เช้า สาย บ่าย

วิดิทัศน์สั้น ติดตามช่วงหน้าตรงนี้


กุ้ยหลิน สวรรค์บนดิน เมืองในภาพวาด


กำลังจัดทำ ติดตามเร็วๆ นี้!

ทำเนียบรุ่น


คำคมเที่ยงนี้

เจี้อยแจ้วแว่วเสียงสำเนียงขับร้อง ดั่งเพลงมนต์รักแม่กลอง
ล่องลอยพลิ้วหวานซ่านมา กล่อม สาวงามบ้านอัมพวา
 มนต์รักแม่กลองทาบทา
เหมือนสายธาราแม่กลองรำพัน

เพลงมนต์รักแม่กลอง
ร้องโดย โอภาส ทศพร

 


Refreshed at SamuthSongkram

ฟื้นฟูที่สมุทรสงคราม วันที่สอง 4 กพ.52 เที่ยง

ได้เวลารับประทานอาหารแล้ว ผู้จัดจัดให้ไปรับประทานอาหารกันนอกรีสอร์ท หลังจากเลิกเสียบ่ายโมง ก็ทยอยกันลงเรือที่จอดริมฝั่งน้ำหน้ารีสอร์ท ผมจะพาเพื่อนๆ ทัวร์ริมน้ำแม่กลองกัน มีภาพถึง 68 ภาพ ช้านิดนุงสำหรับคนเน็คไม่แรง ไปกันเลยครับ

(1) (2) (3) (4)

คนที่ลงเรือก่อน คือคนที่หิวมาก(1)(2) นั่งแล้ว ก็ทำหน้าหิว (3) รู้ยัง คนหิวทำหน้าเป็นอย่างไร หุๆ ขออภัย แต่สาวๆ ก็มาทีละคน (4) เพราะต้องเรียงคิว ไม่ใช่ๆ เข้าคิวเข้าห้องน้ำกัน เพราะไม่รู้ไปไกลรึเปล่า มาเต็มแล้วเราก็เห็นหน้าโล่งอก (5)

(5) (6) (7) (8)

มองจากกลางแม่น้ำแม่กลอง รีสอร์ทที่เราพัก(6) สวยงาม ดูไฮโซดี อาคารที่เห็นเป็นอาคารสัมมนา และโซนโรงแรม หมายถึงเป็นตึกที่พักแบบโรงแรมหลายชั้น ซึ่งเป็นคนละโซนที่พวกเราพักกัน ผ่านบ้านเรือนไทยที่น่าชมน่าอยู่ (7) ดูคล้ายรีสอร์ทหรือบ้านโฮมสเตย์ แต่ไม่แน่ใจ เพราะไม่เห็นป้ายใดๆ ฟากที่มองจากแม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำแม่กลอง บริเวณนี้ กว้างราวร้อยเมตร (8) ดูเหมือนยังชนบทดีอยู่

(9) (10) (11) (12)

หมู่เรือนหลายหลังนี้เป็นบ้านของเศรษฐีแม่กลอง(9) ซึ่งเจ้าของอยู่เป็นประจำ และจะพบว่าพักผ่อนริมน้ำเสมอ ถัดไป (10) เป็นโฮมสเตย์ที่ดูไทยๆ ดี มีไม่กี่ห้องให้พัก แล้วเราก็เข้ามาตามลำน้ำแม่กลอง(11) (12) ที่มีลักษณะเด่นคือป่าจากที่สมบูรณ์อยู่ สลับกับต้นลำพูที่เลื่องลือเรื่องหิ่งห้อยที่เราจะได้ชมกันคืนนี้

(13) (14) (15) (16)

วัดนี้ชื่อวัดช่องลม (13)(14) ตั้งเด่นกว้างขางข้างแม่น้ำแกลอง มีประปาแบบถังแอปเปิ้ล ดูเหมือนจะเป็นรูปแบบมาตรฐานของกรมโยธาเดิม จุดเด่นอีกอย่างของวัดช่องลมคือเจดีย์ที่สร้างบนกองโอ่ง (15) ลักษณะเหมือนโอ่งกิมจิ (คนชอบซีรีย์เกาหลีคงคุ้นเคย) หรือโอ่งปลาแดกบ้านเฮา (ชักชินรึยัง) ถ้าดูไม่ออกดูภาพซูมใกล้จะเห็นชัดขึ้น (16) แต่ผมคิดว่า ถ้าเราเข้าไปดูใกล้ๆ อาจจะเป็นโอ่งเก็บน้ำฝน ประมาณโอ่งมังกร ก็เป็นไปได้ วัดนี้มีสถาปัตยกรรมงดงามน่าแวะชม(17) ในโอกาสต่อไป

(17) (18) (19) (20)

พอผ่านคุ้งน้ำกน้านี้ (18) ก็จะมีสบคลองผีหลอก (สบ แปลว่า จุดที่แม่น้ำแยกสาขา) กับแม่น้ำแม่กลอง ออกไปทะเล มองไปทางขวา จะเห็นแม่น้ำแม่กลองที่เต็มไปด้วยเรือยอร์ช อ้าว ไม่ใช่เหรอ อ๋อๆ เรือประมง (19)(20) (21) เรือเหล่านี้ แพงกว่าเบนซ์บางคันเสียอีก บางช่วงก็มีกระชังเลี้ยงพวกปลากะพง(22) ที่เรารู้จักกันดี เนื่องจากที่นี่ เป็นน้ำกร่อย น้ำเค็ม น้ำจืด ปนกันไปมา ปลากะพง ทนทายาท น้ำไหนก็เลี้ยงได้  ที่นี่ไม่สามารถเลี้ยงปลาทับทิมได้ เพราะต้องเลี้ยงในน้ำจืด หรือปลาทับทิมทะเล ต้องเลี้ยงในน้ำเค็ม ไปเลย มีบางกระชัง เลี้ยงกุ้งแม่น้ำ ซึ่งอุดมสมบูรณ์ในแม่น้ำแม่กลอง บางคนตกด้วยเบ็ดกุ้ง อาจได้ถึงคืนละ 2-3 กิโลกรัม ซึ่งทำรายได้กว่า พันบาท ต่อคืน 

(21) (22) (23) (24)

ช่วงที่เราเปลี่ยนผ่านเป็นคลองผีหลอก อย่างชัดเจนคือ มีสะพาน (23)(24) ร้านอาหารที่เราทานกัน อยู่ในคลองไปอีกไกล ท่านประธานเก็บภาพจนเหนื่อย ก็มองอย่างเดียวที่หัวเรือ ส่วนเพื่อนๆ ที่ไม่คอยได้คุยกันนานก็ยังเม้าท์ก้นอย่างออกรสลืมหิวไปเลย (25)(26)(27) มีคนแปลกหน้ามาคนหนึ่ง เพื่อนๆ จำได้ไหม (28) นี่เป็นรุ่นพี่รุ่น 2 ที่รีเฟรชไม่ทันเพราะเพื่อนบอกว่าลาคลอดบุตร ทำให้หัวเราะกันงอหาย เห็นปิ๊งปั๊งอย่างนี้จะห้าสิบอยู่แล้ว โอว้ ไม่น่าเชื่อ อันที่จริงเพราะลูกชายไม่สบาย เลยอยู่ดูแลที่โรงพยาบาลต่างหาก แต่ก็ขอมาอบรมรุ่นนี้แทน

(25) (26) (27) (28)

ต้นคลองจะมีทางเดินของหมู่บ้าน (29)(30)(31) ไม่ทราบว่าเน้นการใช้สอยปกติ หรืออำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยว แต่ก็มีการเปลี่ยนแกลงระบบนิเวศชายฝั่งไปเยอะ จะว่าสวยก็สวยดี แม้ว่าการสัญจรด้วยเรือหางยาว (31) จะสะดวกและประหยัด แต่ถูกต่อต้านจากชาวบ้าน เนื่องจากคลื่นแรงทำให้ตัวอ่อนหิ่งห้อย ซึ่งเป็นจุดขายของที่นี่ หล่นจากแหล่งอนุบาลชายฝั่ง หลุดเข้ามากลางแม่น้ำ เป็นอาหารของปลาไป และลดน้อยลงทุกวัน

(29) (30) (31) (32)

นี่เป็นภาพของคลองผีหลอก (32)(33)(34)(35)(36) เต็มไปด้วยต้นจาก และต้นไม้ต่างๆ และมีชื่อเสียงของผีหลอก พ่อค้าแม่ค้ายังคงเจอกันประจำ ปกติเรือที่จะออกไปตลาด จะผ่านบริเวณคลองตอนราวตีสาม ต้องรอกันกว่าสิบลำถึงจะกล้าพายเรือไปตลาดกัน เพราะเจอกันถ้วนหน้า อาจจะเป็นบรรยากาศพาไป ถ้าเป็นกลางคืนคงน่ากลัวพิลึก

(33) (34) (35) (36)

หลังจากเม้าท์กันมาพอหอมปากหอมคอ ก็เริ่มสิ้นเสียง เบาลง หันไปดูความงามตามชายคลอง(37) อ้าวนั่น มีปะปาโผล่ออกมาด้วย (38) โอ่งน้ำตฝนรึมเลย หน้าบ้าน ที่นี่คงสามารถใช้น้ำฝนได้ อย่างน้อยก็เป็นน้ำใช้

(37) (38) (39) (40)

มาถึงแล้ว ดอร์นอก (Outdoor World) (39) สโลแกนของที่นี่ แต่ร้านชื่อชาวเล ดูสิพี่ดวงพรที่ดีใจว่าจะได้ทานเสียที (40)(41)(42)(43) บ่ายโมงกว่าแล้ว พี่วิโลลักษณ์ และไปยาลใหญ่ (ดูเอาเอง ยิ้มกันยกใหญ่) อาหารที่นี่น่าทาน และน่าอร่อย (44)(45) ทานแล้วนะครับขอแค่สองสามภาพก่อนละกัลล์ ในขณะที่เราโซ้ยกันแล้ว น้องๆ ผู้จัด (46) ยังช่วยกันต้อนพวกเราลงโต๊ะ และคอยต้อนรับอาจารย์ที่คงจะกลัว(คลอง)ผีหลอก เลยขอไปกับรถตุ้ ที่อ้อมไปกว่ายี่สิบกิโล กว่าจะมาถึงหลายคนก็อิ่มแล่ว 

(41) (42) (43) (44)

ได้ภาพใบไม้พลิ้วเหนือน้ำ (47) นึกถึงกุ้ยหลินเลย ต่างกันที่ที่นี่มีสวะลอยมาด้วย ธรรมชาติกว่าเยอะ บางคนก็ได้อาหารว่างกันแล้ว คือซิก้า (48) กับวิดิทัศน์ (49)(50)

(45) (46) (47) (48)

กลับได้แล้วค่า (51) ยิ้มมาเชียว อิ่มแล้วอารมณ์ดี ออกมาก็รีบกลับเพราะต้องไปดูงานต่อที่โรงงานทำพลาสติก นี่เป็นภาพของร้านอาหาร มองจากกลางแม่น้ำ (52)(53)

(49) (50) (51) (52)

ใกล้ๆ มีเรือที่ทำเป็นบ้าน (54) และภาพบ้านริมคลอง(55) ลองจินตนาการดูเถอะว่า กลางคืนตรงนี้บรรยากาศจะเป็นยังไง

(53) (54) (55) (56)

มีภาพผลจากมาให้ดูด้วย พยายามซูมหลายรูปละ นี่คงพอเห็นชัดกว่า (56) ชาวบ้านจะปอกเปลือก เอาแต่เม็ดข้างในมาทำของหวานที่อร่อยมาก คล้ายวุ้น หรือคล้ายลูกตาล

(57) (58) (59) (60)

และบรรยากาศบ้านๆ (57)(58) สวยๆ นี่คงเป็นหลังบ้าน มีทางลงมาคลอง หรือใช้พักผ่อนก็คงสบายดี บางแห่งที่เป็นคุ้งน้ำ (แปลว่า จุดที่น้ำวนเข้าใส่) จะถูกกัดเซาะตลิ่งพังหาย อย่างต้นลำพู ก็จะล้มลงแม่น้ำ บริเวณอย่างนี้จะไม่มีตัวอ่อน หรือตัวเต็มวัยของหิ่งห้อยอยู่เพราะน้ำแรง จะถูกพัดไปกลางแม่น้ำ มีบางบ้านที่มีแต่ คนใช้อยู่ (60) ขออนุญาตไม่ให้ดูรูปบ้านนะ ปลูกเป็นบ้านพักตากอากาศใหญ่โตที่นี่ แต่ไม่ค่อยมีเวลามาอยู่

(61) (62) (63) (64)

นี่เป็นรูปน้องๆ ผู้จัดอบรม (61) ยังเด็กๆ กันอยู่ แต่ความสามารถสูง ต้อนพวกเราไปทานอาหาร หรือเข้าห้องเรียนได้อยู่หมัด โอ้ยอิ่มจัง (62) เสียงน้องแอนคนสวยตะโกนออกมา อ้าวไม่ใช่เหรอ ป่าวๆ น้องบอกว่าหัวเราะเบาๆ ดีนะ ทำให้ยิ้มกันไปหมด (63)

(65) (66) (67) (68)

นี่น่าจะเป็นเสาโพงพาง(65) ถ้าใช่ก็คงเส้นใหญ่เอาการ ขวางกลางลำน้ำเลย พี่คนขับเรือสุดหล่อ(66) บอกว่า เป็นเวทีมวยทะเล ทำให้พวกเราถามว่าจริงเหรอ ใครจะมาชกกันกลางน้ำ พี่แกก็หัวเราะขำใหญ่ เลยไม่รู้ว่าจริงรึหลอก หลายคนถามว่าสังเกตคนขับเรือหรือเปล่า ใส่เสื้อ จอห์น เฮนรี่ เชียวนะ บางคนบอกเป็นเจ้าของธุรกิจท่องเที่ยว บ้างก็ว่าเป็นเจ้าของรีสอร์ทบ้านท้ายหาดไปเลยนั่น เป็นเพราะดูดีเกินไปรึเปล่าเพ่ เอ้า! ขึ้นจากเรือ ไปที่รถเลยนะ น้องผู้จัดตะโกน ให้เวลาห้องน้ำห้านาที ป๊าด รอคิวก็สิบนาทีแล้วนะ(67)(68)