(1)
(2)
(3)
(4)
(5)
(6)
เช้านีี้ อุณหภูมิที่นี่ติดลบ 7 (1) ตอนประมาณ 8 โมงเช้า ภาพที่มองจากห้องเรา เป็นภาพธรรมดา(2) รอบๆ เป็นเขตกึ่งทะเลทราย สุดลูกหูลูกตา แต่เนื่องจากเงินสะพัดจากกิจการพนัน ทำให้เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง เราทานเช้าแล้วเก็บข้าวของแล้วมาห้องสวีทของพี่สองคน แล้วเก็บภาพอีกสักหน่อย ห้องนี้ภาพเป็นสีชมพู (4-6) เพราะประตูทุกบานเป็นสีชมพู ทำให้มองอะไรเป็นสีชมพูหวานแหววไปหมด
(7)
(8)
(9)
(10)
(11)
(12)
(13)
(14)
(15)
สังเกต ภาชนะที่ใช้วางผ้าเช็ดตัวจากุชชี่ ประณีตบรรจงสวยงาม (7) อ่างจ้ำวนจากุชชี่ กลางห้องนอนที่เราแช่กันเมื่อคืน (8) เครื่องเรือนก็ดูหรูหรา (9-11) เตียงกลมสีแดงก็น่านอนด้วยผ้าปูกำมะหยี่ (12) เราถ่ายรูปกับผู้อุปถัมภ์รายการ (13) ด้วยความขอบคุณ และถ่ายภาพสบายๆ (14-15) ผมเอง เป็นที่ระลึก ก่อนเช็คเอ้าท์
(16)
(17)
(18)
(19)
นี่เป็นภาพโรงแรมที่เราพักที่เราหันไปถ่ายก่อนเดินมาถึงรถ (16) ไปกันละ (17) ลงมาที่จอดรถยังหนาวมาก ยังคงติดลบอยู่ น้ำค้างเมื่อคืนยังไม่ละลาย (18) เป็นผลึกน้ำแข็งอยู่ แม้แต่น้ำ ที่เราเก็บไว้ในรถก็เป็นน้ำแข็ง (19) ขวดนี้ถ่ายหลังจากเราเปิดฮีตเตอร์สักพัก และเริ่มละลายแล้ว นึกได้ว่าควรถ่ายไว้ดูเป็นหลักฐานก่อน เพื่อยืนยันว่าหนาวจริงๆ
(20) 
(21) 
(22) 
(23) 
(24)
ถ่ายรูปจากบนรถ ให้เพื่อๆ ดูไปด้วยกันขากลับบ้านครับ ชมบ้านเมืองกัน ร้านขายเครื่องดนตรีพวกกีต้าร์ เปียโน (20) ชื่อร้านโลกของช่างไม้ (Carpenter's Music World) ร้านขายเครื่องดื่ม กับร้านนวด ในโรงแรม(21) ร้านขายของฝีมืองานบ้านของใช้(22) ร้านกาแฟและผับสไตล์ไอริส(23) อาคารสำนักงานให้เช่า(24)
(25) 
(26) 
(27) 
(28) 
(29) 
(30) 
(31) 
(32) 
(33) 
(34)
มีอนุสาวรีย์บุคคลสำคัญ (25) อาคารไปรษณีย์(26) พื้นที่สวนสาธารณะกับอาคารที่จอดรถ (27) ทำให้ถนนโล่ง โรงแรมฮาร่าห์ (28-29) โรงแรมที่ผมเคยพักเมื่อคราวมาอเมริกาปีก่อน ก็ชื่อเดียวกันที่เมือง ล๊าค-ลิ่น ที่ช้ันล่างเป็นกาสิโนใหญ่ ร้านนี้เป็นร้านแลกเปลี่ยนเงิน ในถนนเวอร์จิเนีย(30) ร้านแมกโดนอลด์ (31) ที่อยู่ติดกับร้านขายไวน์ ร้านขายของที่ระลึก (32) ที่ให้คนที่มาด้วยนั่งทานอาหารแมกซิกกันรอได้ด้วย หรือจะทานเฝอ อาหารเวียดนามร้านติดกัน (33) ดูจิวเวอรี่ ยืมเงิน ก็ได้ มีโมเต็ลมอนติคาร์โล ที่พักสไตล์ฝรั่งเศส ที่ดูสะดวกสบาย โมเต็ล ก็คือโรงแรมเล็กๆ ที่ดำเนินการในรูปครอบครัว ความหมายไม่เหมือนบ้านเรา
(35) 
(36) 
(37) 
(38) 
(39)
(40)
(41) 
(42) 
(43) 
(44)
โมเต็ลบางทีเรียก กระท่อม (Lodge) (35) ส่วนการใช้งาน ต่างกันอย่างไรไม่ทราบ แต่ดูเหมือน คำ Motor lodge จะใช้คล้ายโมเต็ลบ้านเรา ร้านนี้ชื่อ Silver bell Wedding chapel อาจจะใช้โบสถ์เก่ามาทำร้าน โรงแรมโชวฺโบธ (37) ดูเป็นโรงแรมที่ใหญ่ น่าจะราคาไม่แพง มีร้านที่อยู่รวมกันแบบอเวนิวส์บ้านเรา (38) เป็นที่นิยมกันหลายที่ พบเรื่อยๆ มักมีทุกเมือง (หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด เรียกว่าเมืองทั้งนั้น) ตรงนี้เป็นมุมกีฬา (39) ที่มีทั้งฟิตเนสและร้านค้าพวกสุขภาพรวมกัน นอกเมืองหน้านาว ต้นไม้ทิ้งใบกันเป็นส่วนใหญ่ (40) สวยไปอีกแบบ บางที่แก้ไขด้วยการใช้ไม่ไม่ผลิดใบ เช่นสนแคระ (41) คลุมดิน ดูสดชื่นขึ้น ซึ่งก็ต้องเลือก เวลาที่หน้าแล้ง ดูแล้ง (42-43) เป็นพวกไม้ดอกจะสดชื่นมากกว่ายามฤดูใบไม้ผลิ แต่บางคนชื่นชอบ ดิบๆ แล้งๆ (44) ทั้งที่พวกเขาไม่มีปัญหาเรื่องน้ำ บ้านพวกนี้อยู่ในเขตชุมชนที่ประปาเข้าถึง หากทำสวนไม่ดูแลให้สวย หลายรัฐในอเมริกาจะปรับด้วย
(45) 
(46) 
(47) 
(48) 
(49) 
(50) 
(51) 
(52) 
(53) 
(54)
เขตภูเขา เริ่มเห็นต้นสน ดูชุ่มชื่นเขียวขึ้นเพราะสนส่วนใหญ่ไม่ผลัดใบ (45-46) หากพื้นที่ผิวดินบางจะมีหญ้าขึ้น พวกไม้ใหญ่ไม่สามารถหยั่งราก เพราะอเมริกาเป็นพวกหินใหม่ ยังไม่ผุพังเป็นดินมากพอยึดรากไม้ใหญ่ได้มากนัก เราจะพบว่า ก็ไม่แล้ง (47) อากาศเย็นทำให้เขาไม่ค่อยมีป่าดิบรกชัฏมากนัก เขาได้น้ำจากหิมะละลาย แม้ดูแล้ง แต่ไม่ถึงกับแห้ง ดังนั้นเขาไม่อนุรักษ์ภูเขาเหมือนเรา ป่าที่นี่อยู่พื้นราบ อุดมสมบูรณ์กว่า ต้นไม่เติบโตดีกว่า บนเขาจึงเป็นถนน (49) เพราะแข็งแรง ทำง่าย หาวัสดุง่าย และวิวสวย (50-54)
(55) 
(56) 
(57) 
(59) 
(60)
(61)
มาถึงเมืองซาคราเมนโต้ เมืองหลวงของแคลิฟอร์เนีย พักทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ ญี่ปุ่น ร้านนี้ (55) อร่อยถูกใจ รอบๆ แต่งรับเทศกาลคริสมาสกันแล้ว (56-61) เรายังอยู่ในอเมริกา พาเพื่อนๆ เที่ยวต่อกันอีก ติดตามอ่านนะครับ
ทางลัด คลิกตรงนี้ครับ
::
มหัศจรรย์เมริกา
::
ไตรรงค์.เน็ต
::