มหัศจรรย์อเมริกา
21 ธันวาคม 2554
 (2) ตอน อนุสรสถานแห่งชาติ เมอร์วูด

(M2) (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9)

เราไปชมป่าโบราณกันในอนุสรสถานแห่งชาติเมอร์วูด (Müir Woods Monument) (M2) ที่เมือง Mill Valley รัฐแคลิฟอร์เนีย ผมถามพระอาจารย์เกษตรว่า อ่านยังไงถึงจะถูกต้อง อาจาย์บอกว่า เราอ่านว่า เมอ-หวูด เพราะง่ายดี แต่ไม่ถูกนัก น่าจะอ่านว่า มูเอียหวูดสฺ (อ่านไวๆ มันควบกล้ำ สระอูกับเอีย เข้าใจว่าน่าจะเป็นภาษาสเปน) จากเบิร์คเล่ย์ ขึ้นเหนือ ผ่านริชมอนด์ ไปทาง ซาน ราฟาเอล บ้านเรือนแถวนี้อยู่ริมอ่าว ซานพาโบล ภูเขาสูง วิวดี (1-2) เป็นย่านคนมีฐานะอีกแห่ง วิวดีมองไปได้ไกล ผ่านสะพาน ริชมอนด์-ซานราฟาเอล (3) แถวนี้รถติดเหมือนกัน (4) บางสายเต็มบางสายโล่ง แล้วแต่ เราผ่านอาคารนี้(5) อาจารย์บอกห้ามถ่าย ก็เลยให้ดูรูปเดียว เดิมเขาห้ามจริงๆ น่าจะเป็นเรือนจำกระมัง กลัวว่าจะมีปัญหา เราผ่านซาน ราฟาเอลเล็กน้อย ที่นี่ธรรมชาติดี (6) สวยเหมือนนอกเมือง ไม่ค่อยมีบ้านเรือนมาก คงเป็นที่พักสักอย่าง ไม่ไกลมีโรงแรม Larkspur แวดล้อมธรรมชาติดี (7) ร้านอาหารนี่ก็น่านั่งชมวิว (8) อันนี้เห็นว่าน่าจะเป็นล้างรถอัตโนมัติแบบขับผ่าน (9) น่าจะนะ ดูน่ารักดี

(10) (11) (12) (13) 

ลานจอดรถที่ต้องเดินไปยังห้องขายบัตร ราว 4-5 ร้อยเมตร (10) บัตรตอนนั้น ราคา 5 USD เด็กสูงน้อยกว่า 15 ปี เข้าฟรี จากนั้นมีทางเข้า (11) มีจุดถ่ายภาพน่าสนใจให้ถ่ายหลายภาพอยู่แถวนี้ อย่างเช่น ขนาดต้นสนตัดตามขวาง (12) แสดงวงปี และรายละเอียดของอนุสรสถาน เราไปป่าชมกัน

(14) (15) (16) (17) (18) (19) (20) (21) (22) (23)

ใบไม้ส่วนหนึ่ง เปลี่ยนสี และหล่น (14) แต่โดยรวมแล้ว เป็นไม้ไม่ผลัดใบ (15) ไม้ส่วนใหญ่ในป่านนี้ เป็นไม้แดง (16) ต้นนี้ 112 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 เมตร เป็นไม้ต้นที่ใหญ่อันดับต้นๆ ของป่านี้ สันนิฐานว่าน่าจะอายุประมาณ 2,000 ปี (สุโขทัย ประมาณ 800 ปี นั่นคืออายุมากกว่าสุโขทัยนับพันปี) สาเหตุที่เติบโตดี น่าจะเป็น น้ำ (17) มีลำธารไหลผ่านทั่วไปของป่า ได้ความชุ่มเย็นมาจากทะเล ป่านี้อยู่ไม่ห่างจากทะเล จึงมีฝนชุกราวกับเขตร้อน กฎหมายอเมริกา ให้ล้อมส่วนเป็นป่าไว้เป็นพื้นที่ป่า ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ ทำให้ป่าอยู่ในเขตดินดี ชุ่มชื้น ในขณะที่ประเทศไทยป่าอยู่บนเขา ซึ่งดินบางกว่า ในความเห็นของผมคือเหมาะกับเรา เพราะเราเขตป่าฝนเขตร้อน ต้องการป่าต้นน้ำ ทางเดินที่นี่กว้างขวาง (18) และห้ามออกนอกเส้นทาง เพื่อไม่รบกวนป่า ต้นไม้ในส่วนที่เราเข้าถึงได้ สูงใหญ่ (19) อายุนับพันปี หรือหลายร้อยปี หลวงพ่อมากับเราด้วย (20) เพิ่งเคยเห็นต้นใหญ่ๆ ขนาดนี้ เราเดินเข่าไปพบป่าที่ โล่งจากริมธาร (21) และจากต้นไม้ล้ม (22) มีจุดแสดงข้อมูลเป็นช่วงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น กับแต่ละพื้นที่ ซึ่งพื้นล่างที่โล่ง ก็จะเปิดโอกาสให้ลูกไม้ (ไม้ต้นเล็ก และไม้พื้นป่า) ได้เติบโต

 (24) (25) (26) (27) (28)

ผมเข้าใจว่า ต้นไม้ใบเหลืองนี้น่าจะเป็นไม้เบิร์ช เป็นสมุนไพรกลิ่นหอมใบเหลืองๆ ใช้กิ่งพร้อมใบสำหรับนวดหลังเวลาอบไอน้ำสปา โดยนำมามัดรวมแล้วฟาดหลังเบาๆ ให้กลิ่นหอมและสัมผัสที่เหมือนคนนวดหลัง  เราเดินไปสักพักเริ่มร้อน(25) พักถ่ายรูปเป็นจุดๆ หลวงพ่อๆ หันมาหน่อยครับ ประมาณนี้ มีคนร่วมเดินกับเราเยอะอยู่ครับ นับร้อยคนทยอยเดินมา มีใบไม้แดง ถ่ายใกล้ๆ ให้ดู (27) จะเห็นว่าแม้ต้นดูไกลๆ คล้ายต้นสน แต่กลับเป็นใบแบบพืชใบเลี้ยงคู่ ถือเป็น ไม้ไม่ผลัดใบ คือไม่ร่วงหมดต้นในฤดูใบไม้ร่วง จะร่วงต่อเมื่อใบแก่มากเท่านั้น ไม้พื้นล่างพบเฟิร์นโบราณ (28) ทั่วไป ในชั้นในของป่าจะเป็นต้นสูงท่วมหัว

(29) (30) (31) (32) (33)

ตัวอย่างของความรู้ริมทาง จะเป็นป้ายแสดงข้อมูลเป็นช่วงๆ อย่างป้ายนี้ (29) เป็นป้ายแสดงชื่อที่มาของชื่อป่าไม้แดง มีหลายจุดที่ต้นสูงใหญ่ (30) แหงนคอตั้งบ่า จุดพัก(31) มีเหเก้าอี้นั่ง และมีต้นไม้ใหญ่ๆ(32-33) ที่ใหญ่จนเป็นที่พักได้

(34) (35) (36) (37) (38)

มองข้างล่างเห็นทางเดินขากลับ ริมธาร (34) คงต้องเดินอีก เราเดินไปชมต้นใหญ่ๆ อีกหลายต้น (35) ต้นนี้ ขวางทางเดินผ่านเลย (36) พี่เอกบอก เห็นแล้ว รักเลย ต้นนี้ งั้นกอดเลยสิ (37) แกกอดควับเลย และบอกว่า มีความสุขมากที่ได้กอดต้นไม่พันปี ผมกลับมาดูภาพนี้ อยากกอดมั่ง เลยมาเห็นเห็ด และการย่อยสลายตามธรรมชาติ (38)

(39) (39) (40) (41) (42)

ต้นไม้ใหญ่มีอีกเยอะ (39-42) เราถูถ่ายไป ดูรูปไป อากาศเย็นสบาย (จริงๆ แล้วหนาว) ลองถ่ายรูป หมุนดู (41) เทียบกับรูปปกติ (42)

(43) (44) (45) (46) (47) (48) (49) (50) (51) (52)

จุดชุ่มชื้นนี้เป็นบริเวณที่น้ำไหลผ่าน ดูชุ่มชื้นหน่อย พบไม้ไม่ผลัดใบเยอะ (43-46) ต้นไม้แดงไม้เนื้อแข็งที่มีราคา ในป่านี้ เมื่อโค่นล้ม (47) จะถูกวางไว้ที่เดิม ให้ระบบนิเวศดำเนินไปตามธรรมชาติ ให้ย่อยสลาย ให้ที่นี่ ไม่สามารถชักลากออกไปได้ตามกฎหมาย จุดน้ำตก ทางน้ำไหล (48) ก็พบเรื่อยๆ หลายจุด มักมีสะพาน หรือทำนบไว้กันการพังทลาย ชอบป่าในส่วนที่ดูได้เข้าถึงจะค่อนข้างโปร่ง (49-50) คุยกับนักท่องเที่ยวหลายคน บอกว่ามีทางแยกไปถึง ยอดเขา และทางไปชมป่าดงดิบกว่านี้ แต่จะไกล ต้องมีเวลาเดินเยอะ เรามาถึงตอนนี้ราวสี่โมงเย็นกว่า แต่ตอนนี้เริ่มมืดแล้ว และเหนื่อยแล้ว เหนื่อยเพราะทางส่วนมากขึ้นเขา ถึงจุดกลับลงเขา (51-52) มีที่นั่งพักผ่อน และเก้าอี้รอเพื่อน ให้นั่งเล่น คุยกันว่าคงไปต่อไม่ได้แล้วเพราะค่ำแล้ว อนุสรสถานจะปิดบริการแล้ว

(53) (54) (55) (56) (57) (58) (59)

เดินลงมาง่ายขึ้นขากลับ ใช้แรงน้อย และใกล้ ตรงนี้เป็นที่ราบ จะพบริมน้ำเป็นที่นั่งพักอีกแห่ง (53-59) ยังพบต้นไม่ใหญ่อีกหลายต้นให้ชื่นชมจะนั่งพักริมรั้วที่เป็นไม้คล้ายหมอนรถไฟ หรือเลือกม้านั่งกว้างๆ เห็นคนก่อนนอนราบไปเลย คงเป็นลม พี่เอกขอมุมสูงที่มองจากด้านล่าง (59) ให้ดูว่า ต้นไม้นี่สูงจริงๆ

(60) (61) (62) (63) (64)(65) (66)

มีจุดแวะหาความรู้มากมาย (60-61)  เด็กๆ ที่ผ่านมาจะอ่านดังๆ ให้กันฟัง เป็นอารมณ์สนุกสนาน คงได้อะไรติดหัวไปบ้าง ตรงไหนที่แปลกไป หรือน่าสนใจ จะมีป้ายกันน้ำ โชว์ไว้หลายรูปแบบริมทาง พร้อมรูปประกอบที่จะชี้ให้เห็นจุดที่จะอธิบายในภาพ ง่ายต่อการเข้าใจ และข้อมูล กะทัดรัดไม่กี่บรรทัด มุมมองริมน้ำยังมีไม้ผลัดใบ (62) เราถ่ายรูปกันจนเกือบถึงขาออก หลายคนไปรอทานกาแฟแล้ว สังเกตเห็นเด็กหลายคนสนุกสนานกับการช่วยเจ้าหน้าที่ จุดเทียนในซองกระดาษ กลายเป็นโคมริมทางที่สวยงาม(63) นี่แสดงว่าถึงจุดพัก สำนักงาน ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกกันแล้ว เราใช้เวลาที่นี่เล็กน้อยใครอยากจะซื้ออะไร อาคารใกล้ร้านกาแฟ แถวที่ขายตั๋ว มีคณะดนตรีเล่นเพลงคลาสสิก (แปลว่าโบราณที่ยังเป็นที่รู้จัก)(64)  นักท่องเที่ยวท่านหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่า พวกเขาเป็นเพื่อนๆ ที่รู้จักกัน ชอบดนตรี นัดกันมาเล่นกัน ไม่ได้มีทุกวัน แล้วแต่จะนัดได้ เพราะดี เพลงส่วนใหญ่ เป็นเพลงลูกทุ่งจังหวะเร็วสนุกสนาน ทำให้ร่างกายอบอุ่น หลายคนเต้นตาม ระหว่างทางกลับมาที่รถ มีร้านขายอาหารเย็น(65) เกิดขึ้น พระอาจารย์บอกว่ามี ที่กางเต้น ที่ต้องเดินไปหน่อย จะมีทั้งครอบครัวมาพักกันนับร้อยเต้นท์ ร้านอาหารจึงอำนวยความสะดวกได้ดี ถ่ายให้ดูไกลๆ เพราะเขาไม่ชอบถูกถ่าย ภาพสุดท้ายวันนี้เป้นภาพไกลๆ มองจากที่จอดรถ มืดหมดแล้ว แต่ใช้โหมดถ่ายภาพกลางวันอัจฉริยะกล้องจึงปรับแสงให้ชัดเจนขึ้น ตอนนี้ใกล้ศูนย์องศาซีแล้ว นั่งรถเปิดฮีตเตอร์ให้อบอุ่นแล้วกลับบ้านกันครับ

ทางลัด คลิกตรงนี้ครับ

- 26/11/2554 เดินทางจากกรุงเทพฯ เริ่มที่สุวรรณภูมิ
- 27/11/2554 แวะเปลี่ยนเครื่องบินที่เกาหลี, เกาหลีน่ารักอ่ะ

- 27/11/2554 อีกวัน อเมริกา ผมมาถึงแล้ว, ซานตา โมนีก้า
- 28/11/2554 ดอลฟิล ดิสนี่ย์ รีสอร์ท
- 29/11/2554 ดิสนี่ย์ บอร์ด วอล์ค 1, 2, ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ 1, 2.
- 30/11/2554 กิจกรรมชายหาด, ดิสนี่ย์ เวิล์ด เมจิกคิงดอม 1 2 3
- 1/12/2554   กิจกรรมชายหาด2, ดิสนี่ย์บอร์ดวอล์คราตรี

- 2/12/2554   ดาวน์ทาวน์ ดิสนี่ย์ 1 2 3
- 3/12/2554   งานแสดงสินค้า, แอปคอต ดิสนี่ย์เวิล์ด 1 2 3 4
- 4/12/2554   เดินดาวน์ทาวน์ ดิสนี่ย์ อีกวัน 1 2 3
- 5/12/2554   จากฟลอริด้าไปซานฟรานซิสโก
- 6/12/2554   วัดไชยมลคล เมืองแฟร์ฟิวด์, วัดพุทธประทีป ซานฟรานซิสโก, ทวินพีค,
                    นั่งรถชมเมืองซานฟรานซิสโก, ท่าเรือซานฟรานซิสโก, โกลเด้นเกตยามเย็น,
                    บลูสตาร์ เมมโมเรียล ไฮเวย์

- 7/12/2554   เมืองวูดแลนด์, เมืองแอนทีโลป เมืองเอลเวอร์ต้า

- 8/12/2554       เมืองแวคคาวิลล์
- 9/12/2554       เมืองโอ๊คแลนด์
- 10-11/12/2554 ชอปปิ้ง ทำบุญ

- 12/12/2554      เมืองโกลเด้นฟุตฮิลล์, บอเรียว เมาเท่น รีสอร์ท เมืองโซดาสปริงส์,
                        ทะเลสาบดอนเนอร์ เมืองแทรกกี้, เมืองบูมทาวน์ คาสิโนกลางทะเลทราย,
                        เมืองรีโน่ คาสิโนหรูหรา
- 13/12/54         ชมเมืองรีโน่
- 14-15/12/54    เมืองซาคราเมนโต้ เมืองวาเลโฮ่

- 16-17/12/54    ทำบุญ ชอปปิ้ง เมืองแฟร์ฟิวด์
- 19/12/54         ฐานทัพอากาศ
- 20/12/54         ช่วยงานแต่งงาน
- 21/12/54         เมืองเบิร์คเล่ย์, อนุสรสถานแห่งชาติ เมอร์วูด
- 22/12/54         เมืองเบนิเซีย, รอบวัดไชยมงคล 
ตอนใหม่!

- 23/12/54-5/1/2555  กำลังทยอยลงให้ชมเพิ่มอีก ติดตามชมนะครับ


:: มหัศจรรย์เมริกา :: ไตรรงค์.เน็ต ::