ออลีฝัน      หน้า 14

เยี่ยมชมครอบครัวในเขตกึ่งทะเลทราย
         เช้าๆ วันที่ 20 มิย.39 ออกเดินทาง 8 โมง เรากินข้าว หมายถึงอาหารเช้า ที่โรงแรม กินในห้อง เขามีที่ปิ้งขนมปังให้ แล้วมีพวกคอนเฟล็กให้ นม, น้ำส้ม ขึ้นรถก็ถูกบังคับให้ซื้ออาหารกลางวัน 6$ เป็นขนมปัง แซนวิชและผลไม้ (ส้มเช้ง) 2 ลูก ทุนคงสัก 1.5 $ สะดวกแต่แพงไป พอเข้าเมืองไปถ่ายรูปกลางเมืองตอน 8 โมง ซึ่งเป็นกรุงเทพฯ ก็เป็นช่วงเร่งด่วน มีรถผ่านมาตั้ง 3 คัน และนักเรียน เดินไปโรงเรียน 4-5 คน นอกนั้นร้านปิดเงียบอะไรกันขนาดนั้น ไม่เข้าใจ ผม ถ่ายรูปสุดท้ายที่นี่ เพราะกล้องเสีย (แต่รูปสุดท้ายก็เสีย) เพราะหลังจากนั้นกล้องก็ใช้ไม่ได้อีก ต้องอาศัยเพื่อนๆ เดินทางต่อไปเขต Western Division พื้นที่ราบๆ กว้างๆ (Table Land) แบบโต๊ะเลย ฝนตกมากบ้างน้อยบ้าง ทำนายฝนลำบาก บางปี 50-60 มม. บางปี 600 มม. เราเข้าเขตเริ่มแห้งแล้ง ถนนลูกรัง และแวะดูไร่ฝ้ายกับไร่หญ้า ซึ่งค่าตอบแทนสูง และมีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมด้านสารพิษกำจัดแมลงในปุยฝ้ายแม้ว่าเขตนี้จะมีปัญหาขาดน้ำ แต่ฝ้ายไม้ต้องการน้ำมาก ก็ยังกำไรดี
         พื้นที่ถัดมาเรียกได้ว่ากึ่งทะเลทราย พื้นที่เป็นทรายๆ มีต้นหญ้าต่างๆ เป็นหย่อมๆ ดูแห้งๆ กว้างสุดลูกหูลูกตา แต่ก็ผ่านพื้นที่ Wikkanda National Park ก็ดูแย่หน่อย รัฐไม่ค่อยสนับสนุนเงินให้ มีเอกชนมาช่วยอนุรักษ์อาคารเก่าสมัย 7-8 สิบปีก่อนไว้ นอกนั้นก็โทรมมากๆ แต่ขนาดนั้นก็ยังมี ฮอลิคอปเตอร์ ตรวจการณ์ด้วย แน้... ยังจะบ่นว่าไม่ได้ แค่ค่าน้ำมันชั่วโมงก็หลายหมื่นบาท เราทั้งคนแวะเดินป่า ซึ่งขึ้นตามแนวแม่น้ำ เขาทำเขื่อนกักเป็นช่วงๆ ทำให้มี Wedland ด้วย ที่นี่เราเห็นจิงโจ้ตาบอด กำลังตื่นตระหนก ที่ได้ยินเสียงพวกเรา พยายามกระโดดหนี แต่ก็ติดวนไปวนมาในพุ่มไม้ หาทางออกไม่ได้ เจ้าหน้าที่บอกสงสารมัน และพยามยามหาอะไรให้กิน เคยจะยิงทิ้งก็ทำไม่ลง เราเลยต้องรีบๆ เดินออกไป ที่นี่ดูแห้งแล้ง แต่พอพวกเรามาดูป่า ฝนก็ตกจนแฉะเลย เจ้าหน้าที่ตื่นเต้นใหญ่ ผมบอกว่าเรามาจึงมีฝน (พาฝนมาด้วย) นี่เป็นเขตใกล้ทะเลทราย แห้งแล้งมาก ฝนไม่ตกมาตั้งนาน เราเลยเราดูวิดิโอ หลบฝนระยะหนึ่งพอจบก็ฝนหยุดพอดี เราเลียบแนวป่าออกไป 
 
ที่นี่ เลี้ยงแกะนับหมื่นตัว
         ไปต่อกันที่ ครอบครัว Scott ผ่านเขตทะเลทรายมาอีกนาน จนเจอทางเข้าบ้าน ที่ต้องเดินไปเปิดเอง ผมถามว่าบ้านอยู่ไหน ไม่เห็นเลย อาจารย์บอกต้องขับไปอีก ราว 10 กิโล บ้านบ้าอะไรจะกว้างขนาดนั้น เราเดินทางกันเข้าบ้านอาจารย์บอกว่า ครอบครัวนี้สนิทสนมกับอาจารย์ดี มีกัน 4 คน แต่ดูแลพื้นที่ถึง 170,000 ไร่ (300 กว่าตารางกิโลเมตร) เสียงแกะนับหมื่นตัว (บางปี 250,000 ) วัว 400 ตัว ดูเหมือนรวย เทียบกับประชากรออสเตรเลีย ก็งั้นๆ เอง โวรึเปล่าเนี่ย เราไปถึงก็ดูบ้านใหญ่โตดี มีจานดาวเทียม ที่นี่ห่างจากทะเลทราย ราว 500 กิโล เราขับ รถผ่านไร่คุณสก็อต ไร่เขายาวถึง 50 กิโลเมตร (อะไรกันนักกันหนา) กว้าง 15-20 กิโลเมตร นั่งรถจนเหนื่อยยย 
นี่แหละครับ พื้นที่กว่า 170,000 ไร่ ของครอบครัวสก๊อต
กว้างสุดสายตาจริงๆ
       อาจารย์อธิบายว่า แกะที่ที่ไม่ได้รับการตัดขน มักเป็นโรคต่างๆ ตายเยอะการตัดขนทำให้แกะสุขภาพดี สะอาดขึ้น และแข็งแรงขึ้น เรียกว่า  เราได้ขน แกะก็ได้สุขภาพ พึ่งพากัน
แกะจะยอมให้ตัดแต่โดยดี ท่าทางมันชอบด้วย
       อาจารย์ขอให้เขาสาธิตการตัดขนแกะ ลูกชายเขาตัดให้ดู ด้วยบัตตาเลียนไฟฟ้า หมุนราว 3,000 รอบ/นาที เราก็รุมดูและถ่ายรูปกัน ดูเขาคงตื่นเต้นเพราะไม่ใช่นักตัดขนแกะโชว์นี่นา และ เลยได้แผลเลือดไหลสัก 10 กว่าแผล แล้วมันก็ไปยืนยังกะงงๆ เอ๊ะ ทำอะไร ทำไมเจ็บๆ เป๋อเหล๋อเลย อาจารย์บอกแผลแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก เฮ้อ! ไตรรงค์ พยายามฟังคุณลอรี่ พ่อของครอบครัว Scott อธิบาย และคนในครอบครัวนี้ฟังยากมากๆ สำเนียงฟังยากกว่าใครๆ เลย ทั้งเหน่อ ทั้งเพี้ยน ทั้งย่อ และพูดรัว แต่ก็ดูมีอัธยาสัยดี แถวนี้จิงโจ้เยอะของรัฐให้ล่าได้ เคยล่าได้ (คุณลอรี่เป็นคนล่า) ถึง 3,500 ตัว ขายเป็นอาหารสัตว์ กิโลละ 45 ¢ (9 บาท) ถ้าขายเป็นอาหารคนในทัสมาเนีย ได้ 3 $/กก.)
 
กังหันพลังลม ซึ่งใช้ไม่ค่อยได้
มักใช้ปั้มน้ำมันแทน สูบลงถังข้างๆ

       ไปดูกังหันดึงน้ำจากดิน เขาขุดกันในทะเลสาบ ซึ่งแห้งไปแล้ว ทะเลสาบนี้จะมีน้ำก็ประมาณ 50ปี/ครั้ง คือจนมีน้ำท่วม ทั่วออสเตรเลีย ครั้งใหญ่ นั่นแหละ ที่นี่จึงมีน้ำ เป็นบริเวณที่เห็นต้นไม้ใหญ่ เขามีรางน้ำ และบ่อให้แกะ และวัวลงมากิน เราดู 2 บ่อ คุณลอรี่ ให้ลองชิมต้นไม้ดู เค็มยังกะเกลือเลย เขาทำบ่อด้วยแผ่นเหล็ก ยกสูงขึ้นเหมือนถังสูง อีกบ่อเป็นพลาสติก หนากว้างสัก 5 เมตร ลึกสัก 5 เมตร 
       เราเดินทางออกมา ยาวนาน จนถึง Hillston Motel ซึ่งเป็นทางผ่าน เพราะพี่คนหนึ่งสั่งแหวนไว้ ก็เจอแขกโรงแรมคนหนึ่งใส่อยู่ ขอบคุณกันใหญ่ เดินทางถึงโรงแรมที่พักก็ 2 ทุ่ม นานมาก พักที่ Lake Cargelligo ชื่อโรงแรม Lachlan Way. คืนนี้ หลังไปกินข้าที่สโมสรแห่งหนึ่ง ของพวกคนชราเหมือนกัน กินอาหารจีน แล้วกลับโรงแรมไตรรงค์ กับปลัด ออกมาเดินสำรวจเมืองเพราะเงียบๆ ดี ถึงหน้าโรงแรมเลยไปเล็กน้อย เจอคลับ เดินเข้าไปดูมีตู้เกมส์โป๊กเกอร์ เล่นไม่เป็นเลยออกมา มีราว 7-8 ตู้ นักเลงคุมร้านพยายามจะให้เรากินเหล้า กินเบียร์ และเล่นตู้เกมส์ให้ได้ เราเลยเลี่ยงๆ ออกมา ก็เจอสาวผิวทองแดง คงเป็น อเบอร์จิ้น (คนพื้นเมืองออสเตรเลีย) อวบๆ อ้วนๆ ดำๆ พยายามหว่านล้อม ทำท่ายั่วยวน ให้เราไปเที่ยวกับเธอ เราหันมาหัวเราะกัน เป็นอันว่าขอกลับไปนอนที่พักของเราดีกว่า
 

หน้า 1 ก่อนเดินทาง, บนเครื่องบิน
หน้า 2 วันแรกที่ออสเตรเลีย, รู้จักกับอาจารย์
หน้า 3 อาหารมื้อละ 185 บาท ค่ารถเมล์ 70 บาท, เดินชมเมืองซิดนี่ย์
หน้า 4 เริ่มชีวิตนักเรียนนอก, เริ่มเรียนวันแรก
หน้า 5 พาชมเมืองซิดนี่ย์
หน้า 6 ลุยราตรีซิดนี่ย์, เริ่มฟังภาษาอังกฤษออกแล้ว
หน้า 7 ไปดูมหาวิทยาลัยนิวเซ้าท์เวล
หน้า 8 ดูงานที่มหาวิทยาลัย Western Richmond
หน้า 9 ขับรถท่องนิวเซาท์เวล
หน้า 10 ชมเมืองซิดนี่ย์, เรียนคอมพิวเตอร์, คริสมาสเดือนมิถุนายน, เตรียมตัวออกทริพ
หน้า 11 ทัศนศึกษาสวนสัตว์ทารองก้า, ออกภาคสนามอันยาวนาน
หน้า 12 แคนเบอร่า เมืองหลวง ออสเตรเลีย, สโนวี่ เมาท์เทน 
หน้า 13 เขตแห้งแล้งและเขตชลประทาน
หน้า 14 เยี่ยมชมครอบครัวในเขตกึ่งทะเลทราย
หน้า 15 ต้นไม้พันธ์หายาก, เหมืองเงิน Sunny Coner, Mid Winter Fosrival
หน้า 16 blue moutain
หน้า 17 ซื้อของฝาก ใหม่!
หน้า 18 ทัศนศึกษา Woo-Longgongใหม่!
หน้า 19 เลี้ยงอำลา, นำเสนอผลงานใหม่!
หน้า 20 พิธีมอบประกาศนียบัตร, กลับบ้านที่เมืองไทย ใหม่!
| ออสเตรเลียแดนในฝัน | ประปาไทย.คอม | ไตรรงค์.เน็ต |