ต้นไม้พันธ์หายาก Acacia Currani
      วันที่ 5 ของการเดินทางคือวันที่ 21 หลายคนออกไปชมทะเลสาบข้างโรงแรม เดินไปราว 5 นาที เป็นหมอกคลุมเรื่อๆ ผิวน้ำ ไตรรงค์สมัครใจนอนห่มผ้าทำความอุ่นดีกว่า 8 โมงเช้า ก็ออกไปดูกันต่อนั่งรถจากเมือง อาจารย์ก็อธิบาย การออกกฎหมาย ห้ามเจ้าของพื้นที่ตัดต้นไม้ยืนต้น เพื่อรักษาสภาพระบบนิเวศน์ เริ่มปี 1970 นี่เอง แล้วไปดูต้นไม้หายาก ต้นไม้นี้ชื่อ Acacia Currani ซึ่งดร.จอห์น เพคการ์ด (อาจารย์ที่มาด้วยนี่แหละ) ค้นพบเมื่อ 1973 หลังจากมันหายไป จากการค้นพบเมื่อ 80 ปีก่อนลักษณะคล้ายสนแต่เป็นใบเรียงยาว เปลือกสีแดงปุยนุ่มๆ แตกพูรอบๆ ต้น แต่ละชั้นกว้างสัก 0.5 cm. ต่อกันยาว ใบมีน้ำมัน ขยายพันธุ์โดยเมล็ดซึ่งเห็นเป็นลูกคล้ายๆ ฟัก ลูกเรียวๆ ยาวสัก 3 นิ้ว และขยายพันธุ์ช้าและยาก และตายง่าย อาจารย์ทำเรื่องขอรักษาไว้ เพราะเป็นบริเวณที่มีหินแกรนิตชั้นดี สำหรับทำรองรางรถไฟ ต่อมาจึงย้ายเมือง และหมู่บ้านทั้งหมดออกไปราว 20 ปีที่แล้ว เดินทางต่อมา มีต้นไม้มากขึ้น พบมีนาข้าวสาลี ต้นไม้มากขึ้น ดินดีกว่าฝั่งตะวันตก (แถบแห้งแล้งกึ่งทะเลทราย) ฝนก็มากขึ้น เห็นไซโลเก็บข้าวสาลี ถังโตๆ แต่ชาวบ้านยัง นิยมขุดหลุมฉาบปูน แล้วเอาข้าวสาลีกองๆ แล้วปิดด้วยพลาสติก ไทยเรามียุ้งข้าวยังดีกว่าเยอะ ไม่ชื้นด้วย ต่อมาก็แวะข้างทางดูการพังของทลายของดิน และปัญหาดินเค็ม มีการปลูกต้นไม้พื้นเมืองคลุมดิน กันดินเค็มและการพังของดิน (ไม่ยักกะทำแบบขั้นบันได และปลูกหญ้าแฝก หรือหญ้ารากยาวเหมือนบ้านเรา) บริเวณที่ผ่าน ยังมีโรงงานกำจัดสารพิษ หรือขยะมีพิษไม่มาก แต่ชาวบ้านก็ต่อต้าน จึงยังไม่ทำเสียที นโยบาย สิ่งแวดล้อมแต่ละรัฐ ก็ต่างกันไป แต่รัฐบาลกลางก็มีกฎหมายว่า เรื่องใหญ่ๆ ต้องคำนึง ถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม บังคับให้มีการศึกษาผล การะทบทางสิ่งแวดล้อมตามที่กำหนด และรัฐมีสิทธิ เรียกดูหลักฐานยืนยัน คุณภาพสิ่งแวดล้อม อันเนื่องมาจากการดำเนินการได้ทุกเมื่อ แม่จะมีคดีบ่อยๆแต่ค่าปรับก็ถูกมาก เรามาแวะเมือง Orange ดูเป็นเมืองเก่า ตึกอาคารสมัยอังกฤษยังมีมากมาย

สวนสาธารณะ cook prak  ร่มรื่น สวยงาม และเงียบสงบดี

        พักกาแฟบ่ายที่สวนสาธารณะ Cook Park มีต้นไม้สูงมาก และต้นสน มีพวกน้ำพุและนกสวยมาก แต่แค่เข้าห้องน้ำ ก็ต้องรีบกลับรถ เพราะที่พักแรมอยู่ไกล ผ่านบริเวณมี land slide ซึ่งจัดการสร้างคันดินขวางทางไว้ เราเลยแนะนำเรื่องหญ้าแฝกไปแต่อาจารย์ก็ดูจะไม่เคยได้ยิน และไม่สนใจอะไร อ้อ! เมืองนี้ เป็นเมืองที่ยุคแรกๆมาสร้างไว้เมื่อขึ้นเกาะใหม่ๆ ศิลปะ Ausie กำเนิดที่นี่เยอะพอกับสถาปัตยกรรม ผลผลิตทางการเกษตรดีมากเลย ชื่อเมืองส้ม (Orange) แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ปลูกส้ม มีถนนที่เราผ่านออกมา ชื่อ Sale street คุณจินนี่บอกว่า อุ้ย ! ถนนลดราคาน่าซื้อจังเลย ที่นี่มี NSW Motel เมืองนี้ค่อนข้างกว้างใหญ่ และเรามาถึง 4.30 น. โดยประมาณ เร็วกว่าเวลาราว 30 นาที ปกติ 5.00 น. จะถึงที่พักอย่างเร็วซึ่งมืดพอดี เราเดินชมเมืองกัน ได้หนังสือราคาถูกมา บางคนก็ได้ของฝาก แล้วก็กลับมาหาข้าวกัน ไม่มีร้านอาหารเปิดเลย เลยต้องพึ่ง KFC ซื้อไก่ และเฟร้นฟรายมากิน หมอสุพจน์ กินมาม่า เห็นบอกอร่อยกว่าอะไรๆ ทั้งหมด ราว 6 โมงเย็นก็ลงไปคลับใต้ดินของโรงแรม บรรยากาศดี มีเพลงเบาๆ มีเบียร์ มีเหล้า และมีตู้เกมส์โบ๊กเกอร์อีกแล้ว หลายคนลองหยอดเหรียญเล่นดู แป๊บเดียว 5 เหรียญหายแว๊บเลย เราถามบริกรไว้ตั้งแต่ก่อนออกไปกินข้าว เขาบอกว่ามีตู้สล๊อด แต่ไม่เห็นมีเลย สัก 1 ทุ่มเราก็ขึ้นมาถามแคชเชียร์ เธอก็แนะนำไปที่คลับแห่งหนึ่ง ห่างออกไปราว 400 เมตร 3 ล๊อก 4 แยก แล้วเลี้ยวไปอีก 1 ล๊อกถนน ชื่อ RHL มีคาสิโนใหญ่ เราต้องสมัครเป็น Tempory Member เราใส่ที่อยู่ในซิสนีย์ไป แล้วไปเล่นดู ผมก็ได้มา 140 $ บางคนก็เสียแล้วพยายามเล่นต่อจนเขามาไล่ เพราะปิดราวตี 1 ไตรรงค์กลับมาก่อน เพราะง่วงนอน เพราะไม่อยากเสียตังค์ด้วยแหละ แฮ่ะๆ นอนก่อนเที่ยงคืนเล็กน้อย เพราะต้องมานั่งเขียนบันทึกมาเล่าให้พวกเราดูด้วยด้วย กะจะเล่นๆ บังเอิญกดผิด แทนที่จะกด 9 แถว ไปกด 9 เท่า ตานั้นเลย 81 เครดิต และบังเอิญได้ฟรีสปิน 12 ครั้ง ก็คูณแล้วกันว่าได้เล่นฟรีกี่เครดิต จากนั้นก็ได้บ้าง เสียบ้างแหละ ง่วงนอนเลยมานอน

เหมืองเงินเก่า ที่ขุดทำเหมืองเมื่อสามสิบปีก่อน ที่เห็นเป็นปล่องไฟบนขวาของรูป คือเตาหลอมเงิน

เหมือนเงิน Sunny Coner Silvermine
        วันที่ 6 ของการออกภาคสนาม วันที่ 22 เป็นวันเสาร์ ไปดูเหมือนเงิน ชื่อ Sunny Coner Silver mine ปิดมา 50 ปีแล้ว เกิดปัญหาฝนกรด 50 ปีแล้ว บริเวณนี้มีแต่ต้นไม้เล็กๆ เพราะการเผาถลุงแร่เงิน ทำให้สารพิษ ซึ่งเป็นเพื่อนแร่ คือสารที่อยู่กับเงินในตอนเป็นแร่เงิน มันหลุดออกไปในอากาศ เช่น ปรอท แค๊ดเมี่ยม สารหนู สารทำให้เกิดกรดต่างๆ น้ำที่ออกจากเหมือง ยังเป็นพิษสารประกอบทองแดง ไกลถึง 30 กิโลเมตร ยังไม่มีแก้พิษเลยจนเดี๋ยวนี้ (ไม่ทำมากกว่า) มีเหมืองทำนองนี้อีกมากมาย รวมพื้นที่ประมาณ 0.1 % ของพื้นที่ เช่น ในทัสมาเนีย ภูเขา Lyll เมือง Queentown เหมือนทองแดงมีซัลเฟอไดออกไซด์ (ผลึกสีทองสวยมาก) เมื่อกระทบแดดจะส่องประกายระยับ ชาวบ้านที่ได้ผลประโยชน์ก็พ่นยาฆ่าหญ้า เป็นภูเขาโล้นๆ ก็กลายเป็นเรื่องราวกันอยู่

 Mid Winter Fosrival

เสียงแตรโบราณๆ ประสานกันเพราะมาก ผู้เป่าแต่งเป็นพ่อมดต่อขา แต่เป็นผู้หญิงแต่ง

      อาหารกลางวันที่ Katoomba เป็นเทศกาลกลางวันหน้าหนาว ชื่อ Mid Winter Fosrival มีผู้คนแต่งตัวหลากสีสัน หลายแบบ แบบแฟนซี่กันเกือบทุกคน เช่นนางฟ้า แม่มด หมอผี นางงาม เห็นมีซุปเปอร์แมนด้วย สวยงามมาก แล้วก็มีการเล่นดนตรีพื้นเมือง เดินพาเหรด เดินผีต้นไม้ กายกรรม และขายของถูกข้างทาง สวยงามประทับใจมาก

ผู้ชมเดินเล่น ซื้อของเล่นเต็มถนนไปหมด คล้ายงานวัดบ้านเรา

         เป็นวันแรกที่มาออสเตรเลียแล้วเห็นคนชุมนุมกันเยอะขนาดนี้ ราว 2000 เป็นอย่างน้อย กะด้วยตา ขายของกิน ของเล่น ขงใช้แบบตลาดนัดบ้านเรา หรืองานวัด ไตรรงค์ได้หนังสือราคาถูกที่นี่อีกแล้ว เป็นหนังสือมือสองปกแข็งที่คุณภาพดีอยู่มาก