ออลีฝั  
หน้า 2  วันแรกที่ออสเตรเลีย, รู้จักกับอาจารย์
วันแรกที่ออสเตรเลีย
ในห้องนั่งเล่นมีทีวีและชุดรับแขก ด้านหลังเป็นห้องพักพี่วิโรจน์ ต่อห้องน้ำ เลยไปเป็นห้องของไตรรงค์กับปลัด ด้านหน้าเป็นห้องครัวและซักผ้า มองออกไปเห็นดันมอร์แลงคอเลจ

(แนะนำอีกครั้ง ทุกภาพ สามารถคลิกที่ภาพ เพื่อดูรูปใหญ่ ขนาด 1280x800 px.)

        เดินทางผ่านสนามบิน เข้ามาซิดนี่ย์ ข้ามอ่าวดาร์ลิ่งฮาเบอร์ ลอดอุโมงค์ใต้สะพานฮาเบอร์มามหาวิทยาลัย  เราโดนหลอกครั้งแรก ว่าถ้าใคร กลั้นหายใจจากปากอุโมงค์ ถึงปลายอุโมงค์(ทางลอดใต้อ่าวดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์) ได้ จะได้มาซิดนี่ย์อีก หลายคนก็ ลองดู แต่กว่าจะผ่านราว 5 นาที ยอมแพ้หมด กว่าจะเสร็จกระบวนการ มาถึงก็เข้าหอพักเลย สัก 2 ทุ่ม ที่นี่อากาศหนาวจนสั่น อากาศสดชื่นมาก หนาวแบบชื้นๆ ไม่แห้ง เราแบ่งกันพัก 2 อาคาร ที่ผมพัก ห้องพักเป็นอพาทเม้นท์ อยู่อาคาร 163 ห้องที่ 5 มีห้องนอน 2 ห้อง พัก 3 คน กับพี่วิโรจน์ และพี่สถาพร เลยใช้วิธีเปิดดิกชันนารี่  เอาเลข 2 ตัวท้ายในหน้านั้นมาบวกกัน ใครได้มากก็เลือกอยู่ห้องเดี่ยว พี่วิโรจน์ได้มากที่สุด ได้อยู่ห้องเดี่ยว ก็เหมาะสมดี เพราะเป็นผู้ใหญ่กว่า ดูมีความรู้รอบตัวมาก เราได้เรียนรู้และได้คำแนะนำมากเลย พี่วิโรจน์เคยไปต่างประเทศบ่อย เราจัดแจงเสื้อผ้าลงตู้ แล้ว นั่งดู TV. อาบน้ำ และคุยกันจิปาถะเรื่องต่างประเทศ จนเที่ยงคืน ยังไม่ง่วง ที่กรุงเทพฯ คงแค่ 3 ทุ่ม เวลาห่างกันเร็วกว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง หิว ไม่ได้กินอะไร และไม่มีอะไรให้กิน ไม่มีอะไรขาย ออกไปดูข้างนอกเงียบไร้ร้านรวงเปิดบริการ ออสเตรเลีย ห้ามเอาของกินทุกชนิดเข้าประเทศ กลัวมีปัญหา ไม่ได้เอาอะไรมากินเลย เลยรีบเข้านอนๆ กันไป โดยได้แต่ดื่มน้ำไปก่อน 
        นอนสักพัก พี่สถาพรก็พูดขึ้น 
         "ไตรรงค์ ผมนอนไม่หลับ ..." 
         "อืม! ทำไมเหรอ?" ผมถามข้ามเตียงไป เพราะเพิ่งเข้านอน ยังไม่ง่วง 
         "ผมฝันไปหรือเปล่า นี่เรามาอยู่ที่ออสเตรเลียแล้ว ไม่น่าเชื่อเลย" 
         "ไม่ผันหรอกพี่ ที่นี่ ซิดนีย์ ออสเตรเลีย จริงๆ" ผมบอกไป พร้อมกับนึกขำอยู่ในใจ 
         "ผมพยายามมา 6 ปี แล้ว สอบกรมวิเทศฯ มันช่างยากเย็นเหลือเกิน ในที่สุดก็สำเร็จ และมีวันนี้" 
         ผมเริ่มขำไม่ออก และสะดุดคำพูดนี้ จริงๆ แล้ว ผมก็เพียรสอบหลักสูตรต่างๆ มาสัก 3-4 ครั้งได้ แต่ละครั้ง รู้เลยว่า สอบไม่ได้แน่ๆ แล้วก็สอบไม่ได้จริงๆ เพราะผมไม่ได้ให้ความสำคัญมากมาย ไม่ตั้งใจเตรียมตัว สักเท่าไหร่ เพราะไม่รู้ว่า การมาเรียนเมืองนอกมันน่าดีใจแค่ไหน แล้วมันสวยงามอย่างไร 
         พอให้เวลากับการเตรียมสอบเป็นปีๆ ก็สอบได้จริงๆ ครั้งนี้ก็ไม่ได้คะแนนมากมาย  แต่ก็นับว่าสอบได้ 
         ผมว่าผมดีใจมาก นึกถึงเคยไปดูงานอาชีวเวชศาสตร์ ที่สิงคโปร์ ก็ว่ายอดเยี่ยมแล้ว กลับมาเกิดโครงการ มากมายในโครงการต่างๆ ของอิสเทอร์นซีบอร์ดมากมาย มันไม่ถึงครึ่งกับการได้มาเรียน เพราะมันคือความสามารถของเราเอง ไม่ใช่งานที่เราต้องไป หรือแย่งๆ กันไป เผื่อจะมีเวลาได้เที่ยวหรือชอปปิ้งบ้าง 
         เราคุยกันต่อราว ครึ่งชั่วโมง จนรู่สึกง่วง นอนเถอะ คุยมากก็หิวข้าว 

รู้จักกับอาจารย์

 


หน้าอพาทเมนต์ของมหาวิทยาลัยสำหรับนักเรียนอินเตอร์
ผมพักอยู่ชั้น 2 ห้องฟากขวามือชองรูป

การจราจรชั่วโมงเร่งด่วน วันเสาร์ ถนนหน้ามหาวิทยาลัย (สงสัยเพราะเป็นชานเมืองรึเปล่า?) 

 
อพาทเม้นท์ ที่พักหน้ามหาวิทยาลัยแม็คควอรี่ 

          ตื่นเช้า หนาวมาก ที่นี่จะหนาวจัดราว 7 โมงเช้า ไม่ใช่ ตี 3 เหมือนบ้านเรา อาบน้ำด้วยน้ำอุ่นซึ่งมีให้ในอพาทเม้นท์ (แปลว่าห้องชุดสำหรับเช่า ที่นี่ส่วนใหญ่เขาเช่ากันโดยจ่ายเป็นรายสัปดาห์ ไม่ใช่รายวัน หรือรายเดือน) เพราะชินที่จะต้องอาบน้ำตอนเช้าในไทย ข้ามถนนมารับประทานอาหารเช้าฝั่งตรงข้าม เราดูช่วงเร่งด่วน จราจรโล่งมาก หรือเป็นวันเสาร์

 


ด้านหน้าของดันมอแลงคอเลจ
ที่เราฝากท้องส่วนใหญ่หลายๆ มื้อ ไว้ที่นี่

บรรยากาศในดันมอแลง คอเลจ (หอพัก)
ที่เราทานข้าวกัน กับใบเมเปิ้ลสีส้ม ดูเป็นเมืองนอกดัจัง

          เราเริ่มอาหารเช้าที่โรงอาหาร  Dunmore Lang Collage ที่นี่เรียก หอพักว่า วิทยาลัย (Collage) และเรียก คณะ ว่า โรงเรียน (School) ก็แปลกดี มี 19 วิทยาลัย อาหารเช้า เป็นน้ำส้ม นม ขนมปัง และก็คอนเฟล็กซ์ (ข้าวโพดอบกรอบ หรือ ธัญพืช อบกรอบ) มีแยมต่างๆ ตั้งไว้บนโต๊ะแทนน้ำปลา-น้ำส้มสายชูและพริกป่นบ้านเรา รสเนยๆ จืดๆ และเย็นๆ กินแทบไม่ลง รู้สึกรักอาหารไทยขึ้นมาทันที
 
บรรยากาศการแต่งสวนด้านข้าง คณะสิ่งแวดล้อม 

         สักพัก คุณโจเอล กับคุณแอนดรู มากับอาจารย์โดโด้ ประธานโครงการ ท่านเป็นด๊อกเตอร์ ท่านบอกว่าสัญชาติเดิมเป็นอินเดีย พาพวกเราไปเดินดูมหาวิทยาลัยแม็คควอรี่ ดูแค่ห้องที่เราจะใช้เป็นที่เรียน 2 ห้อง และห้องสมุดคณะ ดูเป็นห้องพักผ่อนมากกว่า มีหนังสือเล็กน้อย (ส่วนมากหนังสืออยู่ที่อาจารย์ คือเอาไปเก็บในห้องอาจารย์) ห้องสมุด ใช้เป็นห้องพักรับประทานกาแฟด้วย มีแสงแดดส่องเข้ามาอุ่นสบาย ตัวอาคารคณะสิ่งแวดล้อม เป็นอาคารดูเก่า แข็งแรง ผนังเป็นอิฐสีแดง มีต้นไม้เลื้อยปลูกรอบๆ เลื้อยขึ้นไป 
       อาจารย์ก็ใจดี ให้เราโทรกลับไทย เราก็โทรกันคนละสองสามนาที ต้องกด 19 เลข (รหัสโทรฟรีมั้ง?) ต่อด้วยเบอร์โทร กดผิดก็ต้องกดใหม่ โทรทุกคนแล้วใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง แล้วมาคุยเรื่องหลักสูตรคร่าวๆ ว่าเราจะเล็กเชอร์และออกฟิลด์(ภาคสนาม)กันอย่างไรบ้าง โดยสัปดาห์แรก ให้เรียนเลยในวันจันทร์ วันพฤหัส ว่าง จะพาไปชมเมืองซิดนี่ย์ (ความจริงคือมีการสไตร้ค์กันของทุกมหาวิทยาลัยที่โดนรัฐลดงบการศึกษา ที่ไฮปาร์คกลางเมืองซิดนี่ย์) เลื่อนไปเรียนวันเสาร์ ครึ่งวัน

หน้า 1 ก่อนเดินทาง, บนเครื่องบิน
หน้า 2 วันแรกที่ออสเตรเลีย, รู้จักกับอาจารย์
หน้า 3 อาหารมื้อละ 185 บาท ค่ารถเมล์ 70 บาท, เดินชมเมืองซิดนี่ย์
หน้า 4 เริ่มชีวิตนักเรียนนอก, เริ่มเรียนวันแรก
หน้า 5 พาชมเมืองซิดนี่ย์
หน้า 6 ลุยราตรีซิดนี่ย์, เริ่มฟังภาษาอังกฤษออกแล้ว
หน้า 7 ไปดูมหาวิทยาลัยนิวเซ้าท์เวล
หน้า 8 ดูงานที่มหาวิทยาลัย Western Richmond
หน้า 9 ขับรถท่องนิวเซาท์เวล
หน้า 10 ชมเมืองซิดนี่ย์, เรียนคอมพิวเตอร์, คริสมาสเดือนมิถุนายน, เตรียมตัวออกทริพ
หน้า 11 ทัศนศึกษาสวนสัตว์ทารองก้า, ออกภาคสนามอันยาวนาน
หน้า 12 แคนเบอร่า เมืองหลวง ออสเตรเลีย, สโนวี่ เมาท์เทน 
หน้า 13 เขตแห้งแล้งและเขตชลประทาน
หน้า 14 เยี่ยมชมครอบครัวในเขตกึ่งทะเลทราย
หน้า 15 ต้นไม้พันธ์หายาก, เหมืองเงิน Sunny Coner, Mid Winter Fosrival
หน้า 16 blue moutain
หน้า 17 ซื้อของฝาก ใหม่!
หน้า 18 ทัศนศึกษา Woo-Longgongใหม่!
หน้า 19 เลี้ยงอำลา, นำเสนอผลงานใหม่!
หน้า 20 พิธีมอบประกาศนียบัตร, กลับบ้านที่เมืองไทย ใหม่!
| ออสเตรเลียแดนในฝัน | ประปาไทย.คอม | ไตรรงค์.เน็ต |