18 พฤศจิกายน 2547 |
เช้านี้เหมือนวันก่อน ยังคงหอบปลาเทมปุระ กับข้าวญี่ปุ่นมาตุนเป็นอาหารกลางวัน เพราะเสียดาย อร่อยดี และมันมาก กินไม่หมดในมื้อเดียว
เช้านี้เรียนเรื่องการกำจัดขยะด้วยเทคโนโลยีต่างๆ (รูปที่ 1) หลายเรื่องด้วยกัน เช่น การกำจัดขยะในเขตเมือง(รูปที่ 2-3) การจัดการกับขยะจากการเกษตร ตัวอย่าการกำจัดขยะของไร่กาแฟคุณ เจย์อาร์ (รูปที่ 5 ถ้าคลิกดูรูปใหญ่จะเห็นคนกลางมีหนวด มหาเศรษฐีของญี่ปุ่น ที่มีสารพัดกิจการ เช่น รถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า สินค้าอุปโภคบริโภคตั้งแต่อาหารจนถึงผงซักฟอก ฯลฯ) และการกำจัดขยะเคลื่อนที่โดยใช้รถสำหรับตะเวนไปตามจุดต่างๆ (รูปที่ 6) ที่เก็บขยะโดยไม่ต้องขนส่งขยะมาโรงงานกำจัดขยะ รวดเร็ว และไม่มีกลิ่นมาก และไม้ต้องหาพื้นที่มากมายเก็บขยะ น่านำมาใช้กับกรุงเทพฯ ที่ไม่ค่อยมีพื้นที่นัก แต่คงต้องรถคันใหญ่กว่านี้
11.00 น.ก็จะเป็นการจัดการลุ่มน้ำแยงซี ของจีน ซึ่งเป็นการนำเสนอกรณีศึกษาร่วมมือกันของจีน เกาหลี และญี่ปุ่น (รูปที่ 7)
บ่ายโมง มีเวลากินข้าวและเตรียมตัวขึ้นรถแค่ 25 นาที รีบขึ้นรถไปดูงานนอกสถานที่และเลยไปโอซาก้า เลยต้องเตรียมกระเป๋าใบเล็กใส่สัมพาระไป ผมลากกระเป๋าแดงมีล้อ(จะถูกจะแพง เอาแดงไว้ก่อน ถ่ายรูปจะได้สวย) เพราะกลัวหนาว ใส่กันหนาวไป 3 ชุดเลยเต็มกระเป๋าเตรียมตั้งแต่เมื่อคืน แต่ก็ช้ากว่าคนอื่นจนได้เพราะลืมกล้องถ่ายรูปต้องวิ่งกลับไปเอา ไม่งั้นจะไม่มีรูปมาฝาก
ไปดูงานที่ NIES ก่อนเป็นห้องปฏิบัติการที่อยู่ไกลออกไปประมาณ 40 นาที เช่าอยู่ในสถานที่ของกองทัพสหรัฐ จ่ายค่าเช่าไป 5 ปี แต่ตอนนี้ อยู่ฟรี หลังจากนั้นไม่จ่ายค่าเช่ามาเกือบ 50 ปี แล้วก็ไม่ยอมเอาคืน เพราะไม่มีใครยอมมาอยู่ต่อ เพราะมีข่าวลือว่า ผีดุมาก เล่ากันว่ากลางคืนยังคนเห็นมีงานกินเลี้ยง ยิงปีน โวยวายกันอยู่ประจำจนเดี๋ยวนี้ เนื่องจากถูกระเบิดลงช่วงสงคราม คงเสียชีวิตไม่ทันรู้ตัวก็พินาศหมด(รูปที่ 10 บรรยากาศกลางวัน ข้างๆ ห้องปฏิบัติการที่ลือว่ากลางคืนยังมีคนเห็นงานฉลองกันอยู่) เราก็ชักจะเห็นด้วย เพราะบรรยากาศที่น่ากลัวมากเลย อ่ะๆ นอกเรื่องไปเยอะ เข้าเรื่องดีกว่า อาคารนี้ ตั้งอยู่กลางทุ่ง มีป้ายเล็กๆ (รูปที่ 1)อย่างที่อาจารย์ชี้นี่แหละ ชื่อของห้องปฏิบัติการ เป็นอาคารที่เจาะลงไปลึกใต้ดินอีกหลายชั้น ต้องลงบันไดลง อากาศข้างใน บอกตรงๆ ว่า เหม็นมาก เพราะเขาจำลองภาวะใต้ดินของถังเกรอะ หรือโจกัสสึ (รูปที่ 12) และภาวะการย่อยสลายแบบต่างๆ (รูป 13-14) สารที่ใช้ในโจกัสสึ (รูปที่ 15) และโจกัสสึรูปแบบต่างๆ (รูปที่ 16-18) รวมทั้งการใช้น้ำจากโจกัสสึผ่านออกไป (รูปที่ 19-21) มีป้ายแผนภาพ เห็นมีรูปดอกไม้ที่วาดบนแผนภาพด้วย ดอกไม้นี้เป็นดอกไม้ประเภทวัชพืชพื้นเมือง ขึ้นทั่วไป ข้างนอกฝนตก เมื่อถึงเวลากลับ ก็ออกมาดูห้องปฏิบัติการ(รูปที่ 22-24) ที่มีตัวอย่างส่งมาวิเคราะห์เยอะมากจนต้องวิเคราะห์ด้วยระบบอัตโนมัติได้ผลแล้วก็พิมพ์ออกมาเลย(รูปที่ 25)
(10) (11) (12) (13) (14) (15) (16) (17) (18) (19)(20) (21) (22) (23) (24) (25)
ออกมาผ่านพระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น (รูปที่26) รูปนี้ไม่ได้ลงจากรถเพราะฝนตก เลยถ่ายผ่านกระจกรถไกลๆ บังเอิญมีอาคารมาบังเลยดูองค์เล็กไปบ้าง รอบๆ องค์พระเป็นหลุมฝันบรรดาวีรบุรุษต่างๆ ที่คนขับรถเขาเห็นเราตื่นเต้นก็ใจดี วนให้ดูเลยมีโอกาสถ่ายรูป
ส่งอาจารย์หยาง (รูปที่ 7) ที่สอนช่วงเช้า เพื่อกลับปักกิ่ง อุตส่าห์บินมาสอนพวกเรา ส่งที่สถานีรถไฟ เสียดายที่ฝนตกเลยไม่ได้ถ่ายรูป ที่สถานีรถไฟ เรานั่งรถไฟสายท้องถิ่น (Local Train) เพื่อไปโตเกียว เลยมีรูปแฟชั่นที่นี่ให้ดู (รูปที่ 27) สังเกตเด็กมัธยมปลายที่หันหลัง ข้างนอกอุณหภูมิประมาณ 5-6 องศา แต่ยังนิยมสั้นขนาดนี้ ส่วนเด็กที่นั่ง เป็นอีกโรงเรียน ประมาณ ม.4 สงสัยจะเด็กเรียน โตโต้-ซัง (อธิบายอีกที ซัง-san แปลว่า คุณ) เลยไปนั่งคุยด้วย เธอก็ทำเขิน และประหม่า ออกตัวว่าพูดอังกฤษไม่ถนัด แต่ก็คุยได้เก่งทีเดียว เธอบอกนี่เธอแต่งถูกระเบียบนะ ส่วนพวกที่ยืน ขอไม่ออกความเห็น รถไฟที่นี่ ค่อนข้างสบาย ไม่มีคนยืนมากนัก เราเลยได้นั่งกัน (รูปที่ 28) ไปถึงสถานีโตเกียว เรามีเวลาหาอาหารใส่ท้อง ร้านอาหารที่เป็นประมาณนี้ (รูปที่ 29) คือเขานิยม ข้าวกล่องกันมาก ฟาสต์ฟูด หรือขาวราดแกงไม่มีนัก เข้าไปหยิบออกมาจ่ายเงิน หาที่รับประทานเลย อย่างนี้(รูปที่ 30) นี่จาง-ซัน (ด๊อกเตอร์วิศวะ จากจีน) และเฟ่ง-ซัน (วิศวกร จากจีน ดูเหมือนจะจบโท) ก็มานั่งกินในที่พักผู้โดยสาร ส่วนผม เอาเวลามาถ่ายรูป เดินดูบ้านเมือง และเปิดทานบนรถ ซึ่งที่นี่อนุญาตทานอาหารบนรถได้ ไม่เหมือนบ้านเรา ก็ซื้อข้าวกล่องเป็นพวกข้าวปั้นแบบต่างๆ ปลาไข่เทมปุระ ของขบเคี้ยว 2-3 อย่าง และน้ำอีก 2 ขวด รวมพันกว่าเยน ตุนเล็กน้อย คงกินไม่หมด แต่เผื่อหาซื้อยาก ราคาเลือกได้ ส่วนใหญ่ผู้ชายกินเยอะจะเลือกประมาณ 6 ร้อยเยน ถึง 1500 เยน (100 เยน ประมาณ 30 บาท) ต่อกล่อง ส่วนผู้หญิง ประมาณ 400-700 เยน ก็กำลังดี แต่ผู้หญิงญี่ปุ่นเธอทานกันเยอะ ไม่งั้นก็ 2 กล่องเล็ก ราคานี้ นับว่าเป็ฟาสฟูด คืออาหารราคาถูกของเขาที่หาทานได้ทั่วไป คนที่เขียมกว่าเพื่อดูจะเป็นเวียดนาม เลือกอยู่นั่นแหละ บอกซื้อไม่ลง แพงมากๆ จนผมต้องอธิบายว่า แพงอะไรกัน ของฟรี ไจก้าเขาจ่ายเข้าเอทีเอ็มแล้ว เบิกมาแล้ว นี่ไม่ใช่เวลาเก็บเงิน รถจะมาแล้ว ไม่ซื้อไม่ได้กินนะเออ บนรถแพงกว่านี้อีก (ตอนนั้น ไม่รู้หรอกว่าบนรถมีอะไรกินไหม) เลยต้องไปซื้อ ไม่งั้นโดนดุกว่านี้ แล้วต่อโอซาก้าโดยรถไฟชินคันเซน (Bullet Train) (รูปที่ 27) ชานชลาที่นี่ก็คล้ายสถานีรถไฟบ้านเรา เพียงแต่ป้ายใช้บอร์ดไฟวิ่งและดูไม่จอแจนัก (รูปที่ 28) ภายในชินคันเซน ที่นั่งคล้ายบนเครื่องบิน ดูดี มีผ้ากันเปื้อนด้วย(รูปที่ 29) และเปลี่ยนเมื่อถึงปลายทางทุกครั้ง ส่วนบริเวณโฆษณา ก็ใช้จอแอลซีดีแทน ซึ่งดีกว่าป้ายที่เปลี่ยนโฆษณา มีภาพเคลื่อนไหว วิดิโอ และเป็นป้ายบอกข้อมูลต่างๆ ได้ด้วย (รูปที่ 30) ชินคันเซน วิ่งได้เร็วกว่ารถเก๋งเสียอีก ใช้เวลาราว 6 ชั่วโมงในการเดินทางทั้งหมดจากสึคูบะถึงโอซาก้า หรือประมาณ 1,200 กม. มาถึงโรงแรมราว 3 ทุ่มครึ่ง ยอมรับว่าอาจารย์ต้อนนักเรียนโข่งได้ตรงเวลา ไม่ผิดเวลาเลย
(26) (27) (28) (29)(24) (27) (28) (29) (30)(31) (32)
มาถึงก็อยากเดิน ชวนเพื่อนเดินดูพอยืดเส้นยืดสาย ข้างโรงแรมชวนบุน-ซัง และโตโต้-ซัง ไปเดินดูเมือง ถามเคาเตอร์ เขาก็แนะนำที่ดู ที่เดิน ปาจินโกะ (รูปที่ 31) ยังเป็นที่นิยม และมีร้านผู้ใหญ่ (รูปที่ 32) ทีเราแวะดู เห็นชาวญี่ปุ่นซื้อเหมือนของที่ร้านสะดวกซื้อ แต่พวกเราก็ไม่กล้าซื้ออะไร รอบๆ ก็มีแต่ของกินเยอะ ที่เดินมีหลังคาที่ทำกันฝนระหว่างอาคาร ฝนก็ตกพรำๆ เลยกลับมาที่ห้อง ถ่ายห้องมาให้ดูเพราะหลายอย่างไม่เหมือนประเทศไทย เพราะญี่ปุ่นนิยมห้องเล็กๆ ไม่โอ่โถงเหมือนบ้านเรา คงเพราะแถวนี้นอกจากที่ดินแพงแล้ว เป็นการออกแบบป้องกันแผ่นดินไหวด้วย จะเห็นว่าอ่างอาบน้ำ เล็กแค่นี้เอง (รูปที่ 33) ครีมอาบน้ำที่นี่ กดออกมาเป็นโฟมน่าใช้ดี ไม่หกเลอะเทอะ ส่วนโถชักโครกก็จะเป็นแบบนี้ มีวงจรอิเลคทรอนิคส์ควบคุมการไหลการฉีดน้ำชำระแบบต่างๆ ของน้ำ อุณหภูมิน้ำ มีระบบอุ่นที่นั่งก่อนนั่ง ที่อื่นก็คล้ายๆ กันนี้ นับเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ายอดนิยมอย่างหนึ่ง ที่เตียง(รูปที่ 35) ก็มีชุดนอนแบบกิโมโนที่หัวเตียง มีคำอวยพรก่อนนอน เอามาใส่นอนก็ญี่ปุ่นๆ ดี (รูปที่ 36) เนื่องจากห้องที่มันเล็ก ทุกอย่างก็วางกระชับ(รูปที่ 37) ถ่ายถังขยะมาให้ดู(รูปที่ 38) เขาแยกขยะทั่วไป กับขยะรีไซเคิลได้ไว้คู่กันเลย จะได้ไม่ต้องไปแยกอีก โบรชัวร์ก็เต็มไปหมดบนโต๊ะ (รูปที่ 39) และที่เน้นก็คือ เครื่องดื่มและขนมในตู้เย็นไม่รวมค่าบริการ นี่เป็นเครื่องขายของอัตโนมัติ (รูปที่ 40) ทันทีที่ดึงออกมา มันจะส่งข้อมูลไปคิดเงินที่เคาเตอร์เก็บเงินทันที และต้องรวมจ่ายเมื่อเช็คเอ้าท์ และเนื่องจากรวมค่าบริการถึงที่ ก็แพงกว่าราว 3 เท่า
(33) (34) (35) (36)(37) (38) (39) (40) วันนี้นอนที่โอซาก้า ติดตามต่อพรุ่งนี้นะครับ
[หน้าแรก] ญี่ปุ่นเดือนพฤศจิกายน วันที่ 13 14 15 16 17 18 19 20.1 20.2 ปราสาทนิโจ 20.3 21 22.1 22.2 23.1 23.2 24 25.1 25.2 26 27.1 27.2 28
เกาหลี เดือนพฤศจิกายน วันที่ 28 29 30 เดือนธันวาคม วันที่ 1 2.1 2.2 3 4.1 4.2 5.1 5.2 5.3 6 7 8.1 8.2 9.1 9.1 10 11