27 พฤศจิกายน 2547 หน้า 1/2 |
เราตกลงจะพากันไปเที่ยวเมืองโตเกียวกัน หลังจากติดตอยาวนานกับคุณอิซูกะ ผมโทรคุยเกือบหมดโฟนการ์ด ที่นี่ไม่มีหยอดเหรียญ มีแต่บัตรโทรศัพท์ เพราะท่านไม่รับโทรศัพท์ ทราบว่าเพิ่งตื่น โถ ปกติวันเสาร์คงจะตื่นนอนสายๆ เสาร์นี้เราก็ไปรบกวน ชวนกันไปได้แต่หนุ่มๆ เพราะสาวๆ เขาต้องการชอปปิ้งกัน (เสียดายจัง) ก็มี บุน-ซัง (กัมพูชา) คามา-ซัง (มาเลเซีย) ปัก-ซัง (ฟิลิปินส์) คอง-ซัง (เวียดนาม) โตโต้-ซัง (ฟิลิปินส์) เต๋า-ซัง(เวียดนาม) และปิมปา-ซัง (ผมเอง ชื่อตลกจัง) เรายืมจักรยานของไจก้า ไปจอดที่สถานีรถไฟ ที่ไกลออกมาถึงประมาณ 30 นาที ปั่นกันไวมาก ได้เหงื่อ ตั่วรถไฟ ราคา 3,000 เยน (ประมาณ 900 บาท) เป็นตั๋ววัน ซึ่งใช้กับรถไฟ รถไฟไฟฟ้า รถเมย์ ได้ทั้งวัน กี่รอบก็ได้ นั่งรถไฟไฟฟ้ามาเจอคุณอิซูกะ ที่โตเกียวเลย เพราะอยู่ใกล้กว่า ไม่ต้องย้อนกลับมาสึคูบะ ปัก-ซัง ซึ่งชำนาญญี่ปุ่นได้แยกตัวไปเที่ยวกับเพื่อนหลังจากส่งพวกเราให้กับ อิซูกะ-ซัง แล้ว
สถานีโตเกียว กว้างขวางโอ่โถง (รูปที่ 1) สวยงามด้วยการตกแต่งต้อนรับเทศกาลคริสมาส เรานัดกันที่นี่หากหลงทาง แล้วก็ออกมาตามทาง ที่ไม่รู้เหมือนกันว่าไปทางไหน ตรงนี้ (รูปที่ 2) เป็นรูปทางเข้าตลาดที่เป็นที่นิยมชอปของวัยรุ่น และวัยไม่รุ่น คลาดนี้ชื่อตลาด Amenyayoxocho เป็นตลาดกลางเมืองโตเกียวสำหรับซื้อของสารพัด มะ ปิมปา-ซัง จะพาคุณชมตลาด ตามมาเลยครับ
อิซูกะ-ซัง พาไปเดินตลาด ตลาดที่ไปเป็นตลาดที่มีหลายอย่างขายเป็นสัดเป็นส่วน ตลาดที่นี่น่ารักดี สะอาดสะอ้าน แม้จะเป็นตลาดสด (ตลาดขายของสด เช่น เช่น ปลา ผัก ไข่ ฯลฯ) ก็แฉะๆ หน่อยแต่ก็ดูสะอาด ไม่เลอะเทอะ ดูทีละแผงเลย ไม่หรอกครับ แค่ตัวอย่างนิดหน่อย มีเรื่องน่าดู มีโอกาสค่อยไปเดินดูวันหลังได้ ร้านผลไม้ (รูปที่ 5) สะอาดเหมือนในห้างเลย ป้ายบักเอ้งเลย โตดี และก็เป็นระเบียบดี ข้างนอกเป็นขอโปรโมชั่น เพื่อเชิญชวนไปดูข้างใน มีเข้าของร้านเรียกแขกอยู่หน้าประตูอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ร้านนี้ เป็นร้านปาจิงโกะ ไม่ได้ขายของ แต่เป็นร้นเล่นเกมส์ยอดฮิตของญี่ปุ่นที่มีกันมานานและมีทั่วทุกหัวระแหง มีหลายเกมส์ให้เลือก ร้านนี้ไม่ต้องเรียกแขก เพราะเต็มเสมอ ใช้ป้ายก็พอแล้ว ต่อไป เป็นแผงขายผลไม้เสียบ (รูปที่ 7) ผลไม้ครับ เสียบไม้ บ้านเรามีพวกลูกชิ้นปิ้งเสียบไม้นะครับ ที่คุ้นตา แต่ทีนี่ผลไม้ ไม้ละ 200 เยน (60 บาท ชิ้นเดียวน่ะนะ มาดูร้านขาปลา (รูปที่ 8) แห้งสนิท เขามีผ้าคอยเช็ดเสมอ เลยไม่มีแมลงวัน สะอาดดี อีกร้านขายปลา (รูปที่ 9) ร้านนี้กำลังเอาปลาลงจากรถ เขาทำคล้ายแฟรนด์ไชน์รึเปล่าไม่รู้ มีส่งขาประจำ ไม่ได้ส่งทุกร้าน เวลาส่งก็สะอาด แพ็คเสร็จมาจากสะพานปลา (สะพานปลา=ตลาดขายปลา) ใส่กล่องโฟมรักษาอุณหถูมิถึงร้าน เลยไปเป็นร้านขายข้าวปั้น(รูปที่ 11) ขายเป็นถาดๆ เลย สำหรับกินกันเป็นอาหารเย็นทั้งครอบครัว ไม่ต้องเสียเวลามาหาหน้า หรือปั้นเอง ถึงบ้านก็เปิดกล่องทานกันเลย ช่วงที่พาคุณชมตลาดนี้ มีอีกหลายร้านน่าสนใจไก้ด์ของเรา อิซูกะ-ซัง ขอตัวไปหาซื้อกางเกงว่ายน้ำ ห้ามตามไป เขิน พวกเราเลยแวะเข้าห้องน้ำ อากาศมันหนาว ปวดปัสสาวะบ่อย บางคนก็พักเบรคสูบบุหรี่ ซื้อน้ำทาน ผมแวะซื้อขนมซองมาหลายรายการ เพราะไม่แพงเกินไป อยากทานของท้องถิ่นดู และมันทานได้เลยไง ราคาจะประมาณ 2 เท่าของบ้านเรา ซึ่งเทียบกับสินค้าอื่นจะแพงกว่าประมาณ 5-10 เท่า และซื้อลิปติก รักษาปากแตก อากาศหนาวที่นี่ ส่วนใหญ่ปากแตก บางคนเลือดออกเลย โดยไม่ต้องทะเลาะใคร
หิวแล้ว เพระเที่ยงวันกว่าจะบ่ายโมงละ คุณอิซูกะถามว่าจะกินข้าวกันรึยัง คอง-ซังบอกยังไม่หิวเลย อยากหาร้านขายใช้ไฟฟ้า ก็ต้องรอเพราะเราแคร์เพื่อน ซึ่งไม่รู้ว่าทำไมต้องไปแคร์คนที่ไม่สนใจใคร ขวางโลกมากเลย ทราบใช่ไหมว่าโมโหหิวเป็นอย่างไร งั้นก็ชี้ร้านให้ไปช๊อป เราก็โดนปล่อยให้เดินถนนที่วัยรุ่นนิยมมาเดินกันกลางเมืองโตเกียวเรียกว่าชินโจกุ (ขออภัย ไม่ไม่ใจว่ามันเป็นจุดไหน อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก (รูปที่ 11-17) คุณอาซุมิซังทำท่าดีใจมาก ขอเวลาๆ อยากซื้อหวยบนดิน (รูปที่ 12) ย่านนี้ขายของที่วัยรุ่นนิยมกัน เช่น ของใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ ของกระจุกกระจิก ของแต่งบ้าน ของเทคโนโลยีสูงต่างๆ และวัยนี้ยังนิยม จักรยาน ด้วย (รูปที่ 13) แล้วก็แต่งตัวกันแบบนี้ๆ (รูปที่ 14) น่ารักดี เหมือนในหนังเลย เราเดินดูของกัน และเลือกซื้อ หลายคนได้กล้องถ่ายรูป เครื่องเล่น MP3 อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ ราวบ่ายสอง หิวมาก ถ้าไม่ไปกิน ผมจะไปหาของกินเองแล้ว คุณอิซูกะ บอกว่าก็หิวมากเหมือนกันแต่เกรงใจคนกำลังเพลินกับการชอปปิ้ง ผมเลยต้องไปถามว่าไปกินข้าวได้แล้ว ถ้าอยากชอปก็ตามไปนะ ปรากฏว่า ทุกคนบอกหิวตั้งนานแล้ว ทำไมเพิ่งมาบอก รวมทั้งคอง-ซังด้วย ก็ไปทานกันที่ตลาดขายของกิน เดินไปราว 200 เมตรจากร้านขายของมือสอง ให้เลือกทานเลือกจ่ายกันเอง ร้านแรกผมก็นั่งเลย เป็นร้านราเม็ง (ก๋วยเตี๋ยวแบบญี่ปุ่น หรือที่ญี่ปุ่นแปลว่าหมี่จีน) สั่งเส้นใหญ่ทานก็หิวนี่ กินไปได้ครึ่งชาม โตโต้-ซัง กับอิซูกะ-ซัง ก็กลับมานั่งด้วย บอกไม่เห็นมีอะไรน่าทานเลย เห็นปิมปา-ซัง (ผมเอง) ทานน่าอร่อยจังเลย เราบอก อร่อยจริงๆ ชอบ (เราชอบทุกเมนู อิอิ) ปรากฏว่า สองคนนี่เลยชอบตาม อร่อยกันทั้งคู่ ดีจัง
ทานเสร็จผมออกมานั่งสูดอากาศเย็นๆ นอกร้านหน้าตลาดอาหาร ค่อยๆ มีคนทยอยอิ่มตามกันออกมา มีคนกลุ่มหนึ่งถือป้ายอย่างนี้ (รูป 15-16) ตามกันมา ผมถามว่า เขาเดินขบวนอะไรกันเหรอ อิซูกะ-ซังบอกว่า เท่าที่อ่านดู เป็นกลุ่มอนุรักษ์นิยม ประเภทอาสาสมัคร วันสุดสัปดาห์ จะชวนกัน ออกไปทำความสะอาดรอบเมือง เช่น ถนน คู คลอง เขาทำกันมาตั้งนานแล้ว นับเป็นเรื่องสนุกสนาน และยอดนิยมกันมาก กลุ่มนี้มีสัก 100 คน ทุกเพศทุกวัย อืมมม... ทำตัวน่ารักกับธรรมชาติอะไรอย่างนี้
แล้วไปต่อที่ร้านขายของมือสอง ที่ บุน-ซังดูตื่นเต้นที่ราคาถูกประเภทฮาร์ดิสก์ และกล้อง ก็ยังดีที่มาปรึกษา ผมเลยบอกไปว่า ก็ดีนะ แต่อย่าลืม ว่าของมือสอง ไม่รู้คุณภาพเป็นไงเขาถึงมาขาต่อเนี่ย อิอิ วางเลย น่าสงสาร ดูท่าผิดหวัง เราเมื่อรวมกลุ่มกันได้ก็นั่งรถไฟกลับมาจุดเดิมที่สถานีรถไฟโตเกียว เพื่อชมสวนกลางเมืองฝั่งตรงข้ามสถานีโตเกียว กว้างมาก (รูปที่ 18) แต่ต้องเดิน เดินเข้ามาเป็นถนนคนเดินกว้างๆ สองข้างทางปลูกซากุระ ซึ่งเปลี่ยนสีเป็นสีแดงก่อนทิ้งใบ แปะก๊วย ซึ่งเปลี่ยนเป็นสีเหลืองก่อนทิ้งใบ แลเมเปิ้ล ซึ่งเปลี่ยนเป็นสีส้มและสีม่วง ก่อนทิ้งใบ (รูปที่ 19-21) มองเห็นเจดีย์พุทธ ซ่อนอยู่ในเงาไม้ เดี๋ยวจะพาไปดูใกล้ๆ ครับ ข้างในสวน คนชอบมาเดินสูดอากาศกันพร้อมดูบรรยากาศสวยๆ อย่างนี้ (รูปที่ 22-26)
อันที่จริงที่นี่เขาไม่ได้ให้มีการขอทาน แต่ก็มีวณิพกที่ชอบการร้องทำทำเพลงแล่นดนตรีอย่างนี้ (รูปที่ 24) ก็มีคนนั่งดู เขาร้องดี เล่นดนตรีประดิษฐ์เอง พักได้คล้ายคีย์บอร์ดของออร์แกน ขายของไปด้วย ดูขวามือเป็นศาลาว่าการโตเกียวลิบๆ (รูปที่ 26) แต่เราจะไปดูวัดกันครับ