ทางลัด เลือกคลิกหน้า ได้ตรงนี้ครับUSA is Beauty
ตอน โรงถ่ายภาพยนตร์ยูนิเวอแซล สตูติโอ ฮอลีวูด 4
10 ตุลาคม 2553 หน้าที่ 1 หน้า 2 หน้า 3 หน้า 4 หน้า 5
มีหมู่บ้านหลายหมู่บ้าน ที่เป็รฉากของอีกหลายเรื่อง (1) น่ารักๆ และน่ากลัวๆ (2) ฉาก เครื่องบินตก ไม่ทราบเรื่องอะไร แต่เหมือนกำลังเกิด มีฉากหุ่นคนบาดเจ็บและตาย เต็มไปหมด เป็นฉากที่ใช้พื้นที่กว้างมาก ไม่แพ้หมู่บ้านแคชเปอร์ มีฉาก ภาพยนตร์เรื่อง จอส์ (3) ซี่งมีการแสดงแห่งไฟ ตรงนี้ มีการจำลองการถ่ายทำฉากที่ฉลามทำร้ายคนด้วย ต่อไปผ่านโรงภาพยนตร์ 3-4 มิติ อีก เช่น คิงคอง(4) เป็นโรงภาพยนตร์ 4 มิติ 360 องศา (ขอบคุณภาพจากกล้องคุณปู๋ 2-4 แอบจิ๊กมาให้ดู เพราะถ่ายไม่ทัน อิอิ) เป็นจอภาพโดยรอบ ใช้แว่น 3 มิติ มีการเหวี่ยงรถราง เหมือนกำลังโดนคิงคองจับโยน หรือเหมือนรถรางตู้หลังโดนกระชากตกเหว มีน้ำกระเด็นมาหา เหมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริง ยังมีเดอะมัมมี่ (5-6) ที่จำลองมาให้ดูอย่างน่าตื่นเต้น รวมทั้งอาคารที่แสดงการถ่ายทำเรื่องต่างๆ เช่นฉากไฟไหม้ น้ำท่วม น้ำหลาก ที่ต้องไปดูเอง เพราะถ่ายภาพไม่ทัน - ดูเพลินไปหน่อย
เหนื่อยละ หมดเวลาจากรถราง เราไปหาข้าวกิน(7-8) เพราะบ่ายสามกว่าละ มีร้านให้เลือกมากมาย แต่ก็แพงมาก ประมาณมื้อละ 7-13 เหรียญ คำนวณแล้ว 200-400 บาท กันทุกร้าน เลยไปหาพิซซ่า เพราะคุณปู๋คุณต่ายอยากทานพิซซ่ากัน (9-10) กลิ่นหอมน่าทานมาก แต่ดูเอาเถอะ ทุกคนกินได้ สองสามคำ ก็ไม่อยากทานแล้ว เริ่มทำบุญ ให้โน่นให้นี่ ไม่อร่อยเลย เห็นฝรั่งยกถ่าด ที่กว้างประมาณ 45 ซม. กินคนเดียวอย่างอร่อย คนเดียวหนึ่งถาก นี่ไง ที่ผมซื้อมาชิ้นเดียว (11) และเครื่องเคียงสลัดพร้อมโค๊ก ประมาณ 500 บาท ส่วนต่ายกับปู๋ (9) สองคน คิเป็นเงินไทย พันสอง ช่างจดจำมากจนเดี๋ยวนี้ ยังบ่นอยู่เลย กินได้ไม่กี่คำก็ไม่ไหวแล้ว ปัญหาก็คือ ผมทานได้ อย่างน้อยก็เกือบหมด ไม่อร่อยมาก แต่ก้อ โอเค แป้งๆ ชีดส์หน่อย ไส้กรอกฝานบางเฉียบนิดส์1 โชคดียังมีสลัดให้หายเลี่ยน (แย่จัง ทานอร่อยอยู่คนเดียว หุหุ...)
ไปดูการแสดงสด กันต่อ (12) ในฉากรู้สึกจะในเรื่อง Undersea World (13) ไม่แน่ใจนะคับ เขาเตือนหลายจุด ว่าระวังเปียก เช่นมีป้ายเตือนหลายป้าย ที่นั่งก็บอกว่า Wet Area หลายคนก็เก็บ (ผมเอง กลัวกล้องเปียด เก็บมิดชิด ภาพ 13-15 นี่ก็เป็นภาพจิ๊กจากคุณต่ายมาให้ดู เหมืยนกัน อิอิ) ตั้งแต่ฉากเตรียมคนแล้ว พวกนักแสดง จะมาผูกสัมพันธไมตรีเรียกพวก โดยให้ตบมือ ให้โห่ แสดงเล็กๆ เสี่ยงๆ ให้ดู ปะทะกับฟากกะโน้น รวมทั้งตักน้ำจากฟากเรา ไปสาดฟากโน้น แล้วเราก็โดนฟากโน้นเอากระบอกฉีดน้ำมาฉีดด้วย (14) แล้วก็แสดงสัก 50 นาทีกระมัง เป็นฉากต่อสู้กัน (15) ใช้เรือ ใช้ไฟ ใช้ปืน แสดงหวาดเสียวๆ โลดโผรเสี่ยงตาย ให้ดูสดๆ รวมทั้งโยนเครื่องบินลำเบ้อเริ่มลงคลองด้วย ถึงเวลานัดหมายกลับมารอก่อนครึ่งชั่วโมง เพราะเท้าไม่ไหวแล้วเมื่อยเอาการ ยังมีอีกเยอะที่ไม่ได้ดู กลับนะ (16-17)
บรรยากาศหน้าโรงถ่าย แสงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ถ่ายซ่อมกันหน่อย เท่าทีจะมีแรง นั่งกันหมดแล้ว (18-20) ตรงนี้มองเข้าไปข้างๆ (21) และเมื่อมองออกไป (22)
(23) (24) ((25) (26) (27) (28) (29) (30)
ภาพนี้ เขาขอกว่าเป็นหลอดกาลเวลา ไทม์แคปซูล วางอยู่ตรงกลางแปลงดอกไม้ในวงเวียน (23) จริงๆ ถ่ายมาเพราะสงสัย เพื่อนๆ คิดกันว่าเป็น ศิลาฤกษ์ บางคนก็บอกน่าจะฝังตำนานหรือคำสัญญาไว้ มีใครรู้บ้างครับ รอบๆ มีดอกกุหลาบขาวๆ สวยๆ (24-30)ถ่ายมาฝากเพราะลองวางลงเดสทอป วอลล์เปเปอร์แล้ว น่ารักดี เวลาเย็นแสงนุ่มมาก และยังมีดอกอื่นๆ อยู่บ้าง พวกดอก หงอนไก่ เดลซี่ ประดับไว้หน้าทางเข้าออก
เรากลับมารับประทาน เบอร์เกอร์ กันที่นี่(31) ร้านนี้มีชื่อเสียง และรสชาติเป็นที่นิยม เพราะขนมปังที่ใช้ประกบ ปิ้งโดยใช้เตาถ่าน สูตรแบบโบราณ จะมีความหอมของถ่าน ก็อร่อยดี แต่ลิ้นของผม ไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง ไม่เห็นต่างกับที่อื่น และยังแห้งๆ เราซื้อมากินกันในรถ เพราะอยากรีบพักผ่อน ตรงนี้ถ่ายจาก ห้องพัก (32-34) มันเริ่มมืดแล้ว และทุกคนหลับหมดแล้ว ขอพักก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้ครับ