USA is Beauty
ตอน นิทานและเครื่องเล่นในดิสนี่ย์แลนด์
วันที่ 11 ตุลาคม 2553 1 2 3 4 5 6


มาถึงบ้านพีน๊อกคิโอ (1) ต่อแถวยาวไม่มาก(2)  มันคงไม่ต้องรอนาน  เราไปต่อคิว (3) ปรากฏว่ามีคิวอยู่ในบ้านตั้งยาว คดเคี้ยวไปมาสักห้องโถงหนึ่ง  ฝรั่งที่พาเด็กๆ มาดูกันเยอะ รอไป ถ่ายไป (4) เนื่องจากหนาวมาก ดอกไม้จะหายากที่จะบาน สิ่งประดับแทนที่จะเป็นดอกไม้ ก็ไม้พวกที่ให้ผล สวยๆ (4) เคยได้ยินว่า บางชนิด ดอกมันไม่สวยนัก แต่ผลสวยมาก แต่ต้นนี้ ไม่รู้สิ ต้นอะไรไม่ทราบ แต่ผลคล้ายองุ่น และก็ผนังห้องที่เรารอ มีภาพนิทาน พีนิกคีโอ หลายตอนวาดอยู่ ท่านที่เคยชมชอบการ์ตูน ดิสนี่ย์ เห็นภาพนี้คงอยากกลับไปอ่านอีก เรารอรถรางเล็กๆ ตู้หนึ่งนั่งได้ 4 คน ข้างในมืดมาก เลยเก็บกล้อง เป็นฉากเด็กๆ เป็นตอนๆ ของนิทานตั้งแต่เริ่มบ้านช่างไม้ เริ่มทำหุ่นแทนลูก นางฟ้ามาประทานชีวิตหุ่นไม้ให้ช่างไม้ เป็นตอนๆ อย่างนี้ จนจบ มีแสงสีเสียงประกอบสัก 10 นี (มั้ง) ก็ออกมา โดยรวม น่ารักดี แต่มัน ทำสำหรับวัยเด็กมาก รู้สึกเราจะย้อนวัยไปหน่อย เลยไม่ค่อยอิน

(1) (2) (3) (4) (5)

เราเดินออกมาปรึกๆ ษาๆ กัน ว่างๆ ก็ถ่ายรูปบรรยากาศไว้ (6) ยังไม่เข็ดนะ ไปดู สโนว์ไวท์ กับคนแคระทั้ง 7 มาดูกัน ตรงนี้เป็นทางเข้าของปราสาทเจ้าหญิง (7) มาเข้าคิวกัน ก็มองรอบๆ (8) มองจากคิวด้านในปราสาท เข้ามาสักหน่อย ในคิว มีตำราแอปเปิ้ลพิษของแม่มด(9) ในบรรยากาศอึมครึม มีประตูปราสาทแม่มด(10) หัวเสาเป็นลายกระรอก (12) เข้าใจทำซะน่ารักมาก มองออกไปจากหน้าต่างประสาท (13-14) เหมาะมาก เห็นปราสาทเหมือนเป็นบรรยากาศที่อยู่ในนิทาน รอนานมากจนเซ็ง (15) ก็มาถึงสถานีรถไฟ มีรถรางเล็กๆ แบบนี้ (16-17) มีรูปวาดฝาผนังแสดงให้เห็นว่าจะเริ่มเข้านิทานแล้ว ข้างในจัดแสงสีสโนว์ไวท์ น่ากลัวสำหรับเด็กโดยเฉพาะเวลาสโนว์ไวท์หลงทางในป่า เด็กเล็กกรีดร้องใหญ่ ไปดูเองนะ  ข้างในมืด น่ารักดีมากเลยไม่ได้ถ่ายมาให้ดู แต่เราตกลงกันว่าจะไม่เข้าไปดูนิทานแล้ว

(6) (7) (8) (9) (10)(12) (13) (14) (15) (16) (17)

เราออกมาจากบ้านสโนว์ไวท์ พบหางขบวนแห่ตัวการ์ตูนอันโด่งดัง (18) เขามีเดินโชว์ทุกวัน แต่น่าเสียดายไม่ทันถ่ายตั้งแต่ต้น เพาะไปใช้เวลารอดูปราสาท สโนว์ไวท์ กันเสียนาน หิวน้ำ ถ้าหากไม่อยากซื้อน้ำ เพราะขวดละ ร้อยกว่าบาท ก็มาเติมน้ำที่ก๊อก น้ำดื่ม กันฟรี คือ  น้ำประปา  (19) เขาบอกว่าน้ำประปาที่นี่ ดื่มได้ แต่ก็คุณภาพน้ำประปา ไม่ใช่คุณภาพน้ำดื่ม แต่ก็ ดื่ม   อิอิ  คุยกับพี่จิ่มว่าอยากทานกาแฟสักแก้ว มีกาแฟสดขายอยู่ ผมซื้อกาแฟสดแบบ ลาเต้ (ลาเต้ แปลว่า นม ลาเต้คอฟฟี่ แปลว่า กาแฟใส่นม) 4 เหรียญ ประมาณ 120 บาท แต่คุณต่าย บอกว่า ไม่ต้องแพงก็ได้ เลือกเอสเพรซโซ่  3.5 เหรียญ (ประมาณ 100 บาท) เอง ก็เลยได้มาแค่นี้ (20)  ประมาณ 2 อึก (2 ช๊อด ประมาณ 30 ซีซี หรือ 2 ออนซ์) รูปนี้คุณปู๋เลยถ่ายมาให้ดูด้วยความประทับใจ

(18) (19) (20)

(19) (20) (21) (22)

เราไปต่อเดินดูสถานที่รอบๆ ผ่าน Tomorrow Town เป็นกลุ่มเครื่องเล่นล้ำยุค โรงภาพยนตร์ 3 มิติ หรือเรื่องเลียนแบการ์ตูนอนาคต (19-22)  เราเดินกลับมายังถนนสายหลัก (23-26) ผมขอถ่ายรูป วอลท์ ดิสนี่ย์ ผู้ก่อตั้ง ดิสนี่ย์แลนด์ พร้อมการ์ตูนตัวแรก ที่ทำให้เขาโด่งดัง พร้อมปราสาทหลังงาม ที่นับเป็นสัญลักษณ์ของการ์ตูนดิสนี่ย์ หลายเรื่อง

(23) (24) (25) (26) (27) (28) (29) (30) (31) (32)

เราพักกินอะไรหน่อย ของที่นีแพง และไม่ค่อยถูกปาก (แปลว่า ไม่อร่อย นะ ไม่อ้อมค้อมก้อได้) อย่างไส้กรอกไก่ชุบแป้งทอด (33) กับสลัด ตั้ง 9 usd เกือบสามร้อยบาท แต่กินไม่หมด เพราะไม่อร่อย จืดๆ บริเวณที่เรากินก็สวยดี (34-35) เหมือนบรรยากาศยุโรปโบราณ มีสวนดอกไม้หวานๆ ให้คลายเหนื่อยได้ กินเสร็จ ก็ขอเดินไปเล่นเครื่องเล่นต่อ ผ่าน ปราสาทดิสนี่ย์ (36-38) ตามมาครับ

(33) (34) (35) (36) (37) (38)

เลย Tomorrow Land เข้ามา เข้าคิวยาว ก็ดูรอบๆ สวยดีนะ เรียกแถวนี้ว่า ภูเขาอวกาศ (39-41) ดูหนังสามมิติกันก่อน ดูหนังะรอสามมิติกันที่ สคาเกด ต้องใส่แว่นสามมิติ และรออย่างนี้ เป็นหนังสามมิติราว 30 นาที เป็นเรื่องราวของกับตันอวกาษ สนุกดี (42-44) ต่อด้วย สเปซเมาเท่นท์ (45) เป็นเครื่องเล่นที่ต้องลงรถราง (46) วิ่งในความมืดขึ้นลงรวดเร็ว หวาดเสียวกว่ารถไฟเหาะ เพราะมันมืด ผ่านด่านต่างๆ พร้อมแสงเลเซอร์ แม่มด อวกาศ

(39) (40) (41) (42) (43) (44) (45) (46) กรี๊ด.....


ไตรรงค์.เน็ต || USA is Beauty

    ทางลัด เลือกคลิกหน้า ได้ตรงนี้ครับ