USA is Beauty
ตอน ท่าเรือที่ 39
วันที่ 16 ตุลาคม 2553

(A) (1) (2) (3) (4) (5)

เราเดินทางกันต่อ จากสะพานโกลเด้นเกต ไปท่าเรือ 39 (A) คือจุด A ในแผนที่นี้ ผ่านห้องสมุดที่สวยงามมาก (1-2) จอดแถวแหล่งชอปปิ้ง เพื่อเราจะได้ชอป และหาอะไรทานได้ตามใจชอบ ไปถ่ายรูปก่อน เพราะค่ำแล้ว เราอาจหาภาพสวยๆ ไม่ได้ เดี๋ยวค่อยหาอะไรทานนะ มีม้านั่งให้พักดูนก (3-4-5) พวกพิราบ นางนวล และอื่นๆ ที่ไม่รู้จัก  

(6) (7) (8) (9) (10) (11)

นกเกาะเล่น พักผ่อนก่อนกลับรัง (6) ค่ำแล้ว มองไปลิบๆ เห็นคุกอัลคาทาส อยู่กลางน้ำ (7) นกเล่นน้ำกัน หาปลากิน นึกว่านกพิราบ อ้าวว่ายน้ำได้ด้วย เหมือนกันมาก  มีเรือจักรกลเล่นในน้ำคงเป็นเรือนักท่องเที่ยว ดูสนุกสนานกันดีจัง อยากลงมั่ง

 (12) (13) (14) (15) (16) (17)

แถวนี้เคยเป็นจุดพักรถ รอรับของทะเลไปขาย เริ่มพลุกพล่านขึ้น และกลายเป็นแหล่งรับนักท่องเที่ยว รอบๆ เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร  (12-13) ร้านที่ไก้ด์แนะนำคือ ร้านนี้ (14) ภัตตาคารปู ปูตัวโตๆ สดๆ นึ่งหรือย่าง กลิ่นหอมน่ากิน แต่ก้อโดนเรียก รีบมาถ่ายรูป มืดแล้วเดี๋ยวไม่เห็นอะไร  ทั้งๆ ที่รอบๆ ตรงนี้เป็นที่จอดรถ แต่ก็โดนจับจองทำกิจกรรมเสียเยอะ ตั้งแต่นั่งเล่น ไปจนการแสดงของวณิพก (17) คือเล่นดนตรีแลกเงิน แต่วณิพกที่อเมริกา นับเป็นอาชีพที่ได้รับการยอมรับและนับถือ เครื่องเสียงดีๆ แต่งตัวดี เสียงดี และรายได้ดี 

(18) (19) (20) (21) (22) (23)

ร้านขายปูโดยเฉพาะ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเข้าออกเยอะ (18-19-20) เราเดินออกมาเลยไปทางท่าเรือกัน (21) ที่นี่เป็นท่าเรือเก่า แต่ยังมีการใช้งานได้ดีอยู่ (21) ไม่ไกลจากที่นี่ จัดดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกอย่างคือสิงห์โตทะเล โป๊ะเหล่านี้ (22-23) กลายเป็นที่อยู่ ที่พักผ่อน เตียงนอนอย่างดี และเป็นที่ชื่นชอบของมันจนกลายเป็นแหล่งถ่ายรูปดังอีกแห่ง

(24) (25) (26) (27) (28) (29) (30) (31) (32)

มีรถราง บริการมาถึงที่นี่ด้วยอีกเส้นหนึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวซานฟรานมาก เราๆ ด้วย(24) นี่เป็นเหมือน ประตูชัย ของท่าเรือนี้ (25-26) รอบๆ ฟากแผ่นดิน เต็มไปด้วยอาคารสูงที่มีธุรกิจบริการและขายสินค้าเน้นนักท่องเที่ยว อีกฟากก็ยังเป็นธรรมชาติๆ มากๆ ดูโบราณดีเหมือนในหนัง และอยากโดด อ่ะ กระโดดให้ดูละกัน (เข้ามาเรื่องกระโดด ได้งัยเนี่ย) คือมันมืดแล้ว กล้องถ่ายออกมาสว่างขนาดนี้โอเคมาก ต้องโดดสูงสุดถึงจะดูนิ่ง เลยต้องโดดหลายครั้งเหมือนกัน

(33) (34) (35) (36)

มีท่าเรือที่พาเที่ยว หรือเดินทางไปจากตรงนี้ทางเรือ (33) และรอบๆ ดอกไม้เจิดจรัสมากครับ เพิ่งสังเกตว่า สามคนที่เดินแยกกลุ่มมา พกพาสีแดงกันมาหมดเลย เฉดเดียวกันด้วย (34-36) ก็มาเที่ยวนี่ เขาว่าที่นี่เป็นท่าเรือที่สวยมากๆ เพราะดอกไม้สวย ถ้าไม่ใช่สีแดง อาจเด่นไม่พอ จริงไหมครับท่าน

(37) (38) (39) (40)

ถ่ายตรงนี้หน่อย! ผมหันไป แชะ! (37) อ้าว จะไม่ให้ผมโพสท่าเลยฤ อ่ะ ก้อโพสสิ (38) โอเค เลยได้จุดเดียวสองแชะ พี่จิ๋มก็ชอบจุดนี้ (39) ถ้าใครเคยไปทางภาคเหนือบ้าเรา อาจคุ้นเคยดอกไม้พวกนี้ แต่ส่วนใหญ่ไม่รู้จัก (39-40) พวกเจอราเนียม เอสเตอร์ เป็นทีนิยม

(41) (42) (43) (44) (45)  (46) (47) (48) (49)

อันที่จริงก็มีแบบ สนามหญ้าเขียวๆ (41) และร้านรวงสวยๆ ตกแต่งสีสันจัดจ้าน(42)  แต่ดอกไม้สวยกว่า ความจริงตอนนี้ค่อนข้างมืดแล้วนะครับ โชคดีกล้องดี ถ่ายได้สวยเขาเพิ่มความไวแสงให้อัตโนมัติ (43-49)  

(50) (51) (52) (53) (54) (55) (56) (57) (58)

ดอกไม้เหล่านี้ บางชนิดไม่เคยเจอในประเทศไทย เลยเอามาเสียหลายรูปครับ รู้จักกันไหมเอ่ย ดอกนี้ไม่รู้จัก(50) เพิ่งเคยเห็น ดอกนี้เคยเห็นบ้านเราแต่จำชื่อไม่ได้แล้ว (51) ดอกเดลซี่ (52) ดอกเอสเตอร์(53) ดอก echinacea (54) ที่โด่งดังเป็นสมุนไพรรักษาภูมิแพ้ของอเมริกา ก่อนกลับ มีรูปเกาะอัลคาทราซสวยๆ (55) มาฝาก อิอิ คือถ่ายจากป้ายโฆษณานำเที่ยวเกาะ ถ่ายรูปสุดท้ายก่อนอาทิตย์ตกที่นี่ (56)ก่อนออกไปร้านอาหารทานใกล้ๆ กับที่จอดรถที่ไกด์รออยู่ วันนี้เราพักกันโรงแรมนี้ (57) สะดวกสบายมาก และชอบที่มีไวไฟฟรี ให้เราได้แชทและโทรข้ามโลกกลับไทยด้วยไวไฟความเร็วสูงที่นี่ ก่อนขึ้นไปบนห้อง หน้าลอบบี้มีดอกไม้น่ารักที่ผมโปรดปรานอีกดอกคือดอก อะลิซัม (58) วันนี้เหนื่อยมากแล้ว ราตรีสวัสดิ์นะครับ


ไตรรงค์.เน็ต || USA is Beauty

    ทางลัด เลือกคลิกหน้า ได้ตรงนี้ครับ